ก่อนหน้านี้ถูกจับตามองถึงความสนิทสนมที่ดูหวานเกินพี่น้อง สำหรับ สิงห์ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล นักเขียน-พิธีกรหนุ่มชื่อดัง กับนางงามสาว มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เพราะมีภาพของทั้งคู่ไปทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกันบ่อยๆ
แถมล่าสุดเกิดแฮชแท็ก #แฟนหวง ในแคปชั่นใต้ภาพในไอจีของ มารีญา ขึ้นมา จนแฟนๆของนางงามสาวสวย ขอทวงคืนสมบัติของชาติกับวรรณสิงห์ ว่าแต่ลงรูปให้ภาพได้เล่าเรื่องไปไกลยังไม่เคยพูดหรือให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องหัวใจที่ไหน รายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 จึงได้เชิญหนุ่มที่ใครหลายคนกำลังอิจฉา มาเป็นแขกรับเชิญคนสำคัญพูดคุยอัพเดทสเตตัสหัวใจที่กำลังเป็นสีชมพูอยู่ตอนนี้ พร้อมกับเล่าประสบการณ์ชีวิตที่สุดท้าความตายใน เถื่อน travel
เคยนับไหมว่าโหดที่สุด 365 วัน อยู่บ้าน 1 ปี น้อยสุดกี่วัน ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : ผมเริ่มทำรายการตั้งแต่ปี 2009 นะครับ แล้วมันมีพีคช่วง 2016 – 2017 ประมาณนี้ครับ ที่โหดสุดคือเพราะผมทำรายการเดี่ยวพร้อมกันสองรายการเกี่ยวกับการเดินทางผมเดินทางปีละ 14 ทริป เกิน 1 ทริปต่อเดือน เพราะเดือนหนึ่งผมเดิน 14 – 15 วัน แล้วเป็นแบบนี้สองปีติดกัน อย่างที่พี่อั๋นบอกคือ กลับบ้านหมาจำหน้าไม่ได้ เรารู้สึกว่าเราเดินทางช่วงนั้นเหมือนกะลาสีเรือ เพราะกลับมาซักผ้าแล้วก็ออกเดินทางอีก สำหรับตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันกับชีวิตมาก แต่ตอนนั้นถ้าให้ไปทำแบบนั้นเราก็รู้สึกว่าเหนื่อยไปแล้ว
สิงห์ วรรณสิงห์ : จุดขายของรายการนี้คือ เราไปที่ที่คนไม่อยากไป ไม่มีใครคิดจะอยากไป แล้วสองคือผมทำด้วยตัวของผมคนเดียว ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีคนดูหรอกแต่สุดท้ายก็มีคนดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้วตอนนี้ที่แฟนเพจที่แข็งแรงอยู่ ชีวิตเดินทางช่วงนั้น คือที่เราทำเราได้เห็นอะไรที่เยอะมากจริงๆธรรมชาติที่เราไม่ได้เห็นเราก็เห็นมาเยอะมากแล้ว เช่น ปี 2019 ผมไปกินข้าวอยู่กลางกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ผมไปแฮงค์เอ้าท์กับมนุษย์กินคนที่ ปากัวกินี ผมข้ามทะเลทรายซาฮาร่า 24 วันข้ามโดยรถครับเพราะเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ ในทะเลทรายนี้มีประเทศอยู่ 11 ประเทศเลยนะครับ ระหว่างที่เดินทางก็มีเมืองให้แวะ หรือไม่ก็กางเต็นท์นอนกลางทะเลทราย ซึ่งเขามีอารยาธรรมมีประวัติศาสตร์อะไรที่เราเคยรู้เยอะมาก
มีสถานที่ไหนที่ไปแล้วประทับใจที่สุดไหม ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : คือ เถื่อน travel เริ่มต้นจากความสงสัยของผมเองว่าสงครามเขาอยู่กันยังไง อะไรคือสงคราม แล้วประเทศที่ทำสงครามที่ผมไปประเทศแรกคือ อัฟกานิสถาน ผมไปอยู่ที่นั่น สองสัปดาห์ คือถามว่าทริปแต่ละทริปก็จะมีความเสี่ยงครับ จริงๆรายการของเราดูข้างนอกเหมือนรายการผจญภัย เสี่ยงอันตราย แน่นอนจริงๆเราต้องการขายแบบนั้น แต่พอยท์จริงๆของผมคือ ผมไม่ได้อยากตายนะ แต่ผมอยากรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีอะไรอยู่ในนั้น ช่วงนั้นเป็นช่วงที่อยากรู้อยากเห็นในชีวิตพอดี โดยที่เราเอาความอยากรู้อยากเห็นมันมากพอที่จะเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น โดยที่เวทความเสี่ยงไว้แล้ว
แล้วช่วงที่เราต้องไปอัฟกานิสถาน คุณแม่ว่ายังไง ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : แม่ก็จะบอกว่าเดี๋ยว สิงห์ ช่วยเอาแผนที่มากางให้แม่ดูหน่อย ตั้งแต่เดินทางมา 11 ปี 75 ประเทศ มีแค่ประเทศเดียวที่แม่ขอว่าอย่าไปคือ ฟกานิสถาน นี่แร่ะ เพราะว่าที่นั้นคือ วอโซน ประเทศประแรกแล้วแม่ไม่เคยคิดว่าลุกจะไปวอโซน แต่หลังจากที่เราไปแล้วแม่ก็ปล่อยให้เราไปเลยไม่ห้ามล่ะ
แล้วมีครั้งไหนที่เคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดไหม ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : มีหลายๆแบบครับ แบบถนนที่เราขับผ่านเมื่ออาทิตย์ก่อนระเบิดลง หรือว่าทางที่เราจะไป พรุ่งนี้ มีคนโดนลักพาตัวพอดีต้องเปลี่ยนเส้นทางไป ยังไม่เคยเจออะไรที่แรงร้ายครับ แต่เคยไปรถติดหล่มที่กลางทะเลทรายอยู่ 5 ชั่วโมงคนเดียว ตอนแรกเราก็พยายามขุดเอารถขึ้นมาจากทรายก่อน ขุดเท่าไหร่โยกเท่าไหร่ก็ไม่ออกมาแล้วก็ผมจำได้ตอนที่ผมขับผ่านมามีรถอีกคันติดหล่มอยู่เหมือนกับเราซวยไม่ได้แวะช่วยเขากรรมตามทัน ผมเลยเดินย้อนกลับไปกิโลกว่าๆแล้วก็เจอเขาติดหล่มอยู่ก็เลย แฮงค์เอ้าท์ กับเขา เขามีโทรศัพท์ดาวเทียมเขาเลยโทรเรียกให้คนมาช่วยเราเลยได้อานิสงส์นั้นด้วย
เดินทางมา 75 ประเทศแล้วและไม่เคยอยู่เมืองไทยเลย แต่ว่าช่วงนี้อยู่ในประเทศไทยมากที่สุด?
สิงห์ วรรณสิงห์ : ใช่ครับ การเดินทางของผมคือ ช่วงปลาย กุมภาพันธ์ปีนี้นะครับ ไปประเทศไซเบีย กลับมาต้น มีนาคม จากนั้นก็อยู่ประเทศไทยยาวๆเลย แต่เป้าหมายของผมปีนี้ คือ ตั้งใจทำเรื่องสิ่งแวดล้อม แล้วสิ่งที่เราจะไปทำที่เราไป ออสเตรีย ไป ฟิจิ เพื่อเอาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่คนไทยยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างทั่วโลกมาให้ดูทั้ง ไฟป่า ทั้งเกาะที่กำลังจ่มในแปซิฟิกและอีกหลายอย่างที่เราจะไป ปีนี้มีแพลนจะไปปากีสถานที่ตอนนี้อุณหภูมิในเมืองเกิน 50 องศาขึ้นไปแล้ว มีแพลนจะไปปีนยอดเขา แต่ทุกอย่างต้องยกเลิกทั้งหมด เปลี่ยนแผนมางในประเทศไทยแทน ช่วงต้นๆโควิด อย่าเรียกว่าในประเทศในเลย ใน กรุงเทพฯก่อนเลยครับ เพราะจะมี 1 เดือนที่เรานั่งเฉยๆอยู่ที่บ้านเลย แน่นอนไม่ใช่ผมแค่คนเดียว แต่เป็นทุกคนเจอสิ่งนั้นไป พอเรากลับมาดูเราเป็นนักเล่าเรื่องอยู่เราไม่จำเป็นต้องเดินทางเราก็เล่าเรื่องได้ แล้วช่วงนั้นคือ เรามีคนที่ให้แรงบันดาลใจเราช่วยเหลือคนอื่นๆที่เดือดร้อนภาวะโควิดนะครับ ผมเลยได้ทำรายการ โควิดฮีโร่ ขึ้นมา แต่อยู่ในช่องยูทูป เถื่อน travel ซึ่งเราเรียกว่าอยู่ในแนวสาระคดีทั้งหมดเราก็ค่อยๆคิดประเด็นมาในประเทศเยอะขึ้น แต่เราก็อยากทำเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่ดี เราจึงได้ทำ เถื่อน travel Thailand ขึ้นมาสิ่งแรกที่เราทำคือ ไฟป่าที่เชียงใหม่ เราทำประเด็นสิ่งแวดล้อมเรื่องนี้กัน เลยรู้สึกดีเหมือนกันที่ Shut down ต่างประเทศ แล้วเราก็ได้มุ่งมาทำประเด็นในบ้านเรา
แต่ในการทำเรื่องสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย มีแรงจูงใจจนต้องทำ คือ น้องมา ใช่ไหม ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : (หน้าแดง) อันนี้ ก็เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมครับ จริงๆเขาติดต่อเรามาก่อน น้องมา คือเขากำลังเริ่มทำโครงการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอยู่ ชื่อว่า SOS EARTH เขาก็ติดต่อเรามาให้ช่วยทำแคมเปญนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทำแคมเปญเกี่ยวกับเรื่องขยะกันมา ส่วนรูปที่ออกไปตามสื่อต่างๆก็อย่างที่เห็นครับท่านผู้ชม (หัวเราะแก้เขิน)
คุยกันไปคุยกันมาเรื่องงาน จนกลายมาคุยเรื่องส่วนตัวกัน ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : การมาคุยเรื่องสิ่งแวดล้อมมันก็ได้หลายอย่างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสบายใจ นั่นแร่ะครับ (ตอบแบบเขินๆ)
ประทับใจอะไรเขา ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : ตอนแรกเราไม่ได้คิดว่าจะคุยหรืออะไรกันเลยครับ เริ่มจากสิ่งแวดล้อมก่อน ตอนแรกเขาติดต่อผมมาจากทาง DM ของ IG สิ่งแรกที่ผมเห็นคือใครกันนะคนฟอลโล่ตั้งห้าแสนเพราะเราไม่รู้จักเพราะไม่เคยดูประกวดอะไรอย่างนี้ เราขึ้นขั้นไปสแกนชื่อหาเลยว่าใคร มาเรียริน คือชื่อเขาเขียนภาษาอังกฤษ มารีญา คือชื่อในวงการเราคุยกันตอนแรกเราไม่รู้สเตตัสเขาด้วยซ้ำ แต่พอๆคุยๆไปเราก็อ๋อ !! คนนั้นเองที่ดังเมื่อ 2-3 ปีก่อน
ถามจริงๆตื่นเต้นไหม ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : ยังไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะเรายังไม่เข้าใจของการประกวด MUT ก็ดีหรือ มิสยูนิเวิร์ส อะไรยังไงเพราะคนสุดท้ายที่ผมรู้จักคือ พี่ปุ๋ย ครับ ขอโทษนะครับ แต่ผมก็บอกเขาไปหมดแล้ว คือ ตอนแรกเราคุยกันเรื่องสังคมเยอะมากครับ
สิงห์ วรรณสิงห์ : แล้วคือผมเคยไปออก CLUB FRIDAY พี่อั๋น แล้วตอนนั้นได้บอกไปว่าชอบสาวหมวย แล้วตอนคุยกันแรกๆเราไปบอกเขาอีกว่า you not my type (หัวเราะแก้เขิน) คือตอนนั้นเราก็พูดแบบซื่อสไตล์วรรณสิงห์ ไม่มีความละเอียดอ่อนใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเราก็มาคิดทีหลังไม่น่าพูดเลยนะ
พอหลังจากลงรูปไปมีคนว่ายังไงบ้าง ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : มีคนมาทวงคืน มารีญา กับ วรรณสิงห์ หลายคนมาก บางคนไม่รู้จักผมแล้วเขามาคอมเม้นท์ผมในทวิตเตอร์ว่า ไอ้หนุ่มคนนี้มันเป็นใครถึงได้มาแคปสมบัติของชาติไป (หัวเราะ)
เห็นความหลายครั้งความสัมพันธ์มีปัญหาเพราะเราต้องเดินทางตลอด เมื่อผ่านพ้นโควิดไปเราเคยคิดไหมว่ามันจะต้องเป็นยังไง ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : คือเราเดินไป 75 ประเทศทั่วโลกแล้ว ก่อนหน้าจะมาตรงนี้ก่อนหน้าที่จะมีโควิดกำลังหาโอกาศวางมืออยู่ประมาณหนึ่งเพื่อมาโฟกัสอะไรเพื่อประเทศมากขึ้น ก็ยังทำงานเหมือนเดิมงานเรื่องการเล่าเรื่อง งานเรื่องสาระคดีแล้วก็ทำเรื่องสิ่งแวดล้อมแต่ก่อนหน้านี้เราอาจะตีโจทย์ไม่ออกว่าทำงานในประเทศเราจะหาคอนเทนท์อะไร พอโควิดบังคับให้เราทำอันนี้เลยได้ค้นพบทาง เรื่องต่างประเทศยังมีบ้างแต่คงไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน เพราะใจเหมือนไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน
เพราะใจอยู่เมืองไทยแล้ว ?
สิงห์ วรรณสิงห์ : (หัวเราะแบบเขินๆ) ปิดๆได้ครับรายการ นอกจากจะฝาก เถื่อน travel แล้วขอฝากช่องยูทูปของ มารีญา เขาด้วย SOS EARTH เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน นอกจากผมแล้วยังมีพี่ป๋อมแป๋ม มีว่าน ไปช่วยด้วย เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์เรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยฝากด้วยนะครับ
สิงห์ วรรณสิงห์ : ขอบอกว่าเราอยู่ด้วยกันเราก็คุยเรื่องนี้กันครับนี่คือ สิ่งที่ทำให้เราอยากคุยกันต่อด้วยครับ เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญไง (ตอบแบบเขินๆยิ้มๆ) เพราะอยากให้รู้ไว้ว่าเรื่องความรัก มันไม่ใช่เป็นเรื่องฟุ้งฟิ้ง มุ้งมิ้ง อย่างเดียว บางทีบางเรื่องที่เราสนใจร่วมกัน เรื่องสังคมมันดึงคนเข้าหากันได้ มันสำคัญมากๆเพราะสามารถดึงคนเข้าหากันได้มันใหญ่ไปเยอะมาก มันสำคัญมากๆครับ
นอกจากจะฝากใจไว้ที่สาว มารีญา แล้ว ยังฝากช่องทางยูทูปที่ชวนทุกคนไปรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยกันอีก แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่า สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ย้อนหลังได้ทางยูทูป : https://youtu.be/IGih6jqC990