Hermès ถ่ายทอดเสน่ห์ของโลกแห่งสัตว์กับนาฬิกา Arceau Jour de casting ผ่านเหล่าสุนัขแสนซน

0
37
Stacked from 10 images. Method=B (R=8,S=4)

เรือนเวลา อาร์โซ ฌูร์ เด กาสแตง (Arceau Jour de casting) ถ่ายทอดความขี้เล่นของโลกแห่งสัตว์ ผ่านหลากหลายทักษะด้านงานฝีมืออันแสนพิเศษ ทั้งการวาดภาพย่อส่วน งานต่อลายไม้ และการลงยา ที่เผยเป็นสามภาพเหมือนของเจ้าสุนัขสุดเนี้ยบและแสนซน

ออกแบบโดย อองรี ดอริญี (Henri d’Origny) ในปี ค.ศ. 1978 นาฬิกา อาร์โซ (Arceau) ได้แสดงออกถึงรากลึกแห่งศิลปะการขี่ม้าของเฮาส์ (House) ผ่านเส้นสายและความโค้งอันโดดเด่น ด้วยตัวเรือนทรงกลมที่ประกอบด้วยหูตัวเรือนแบบอสมมาตรที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโกลนม้า นำมาถ่ายทอดในหลากหลายรูปแบบของการแสดงออกถึงโลกแห่งจินตนาการของ แอร์เมส (Hermès) ซึ่งรวมไปถึงสัตว์แสนซนเหล่านี้ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายของผ้าพันคอไหม ฌูร์ เด กาสแตง (Jour de casting)

ผลงานการออกแบบโดยศิลปินนามว่า ลิซ สเตอร์ลิง (Liz Stirling) โดยเจ้าสุนัขสวมปลอกคอลวดลายประณีต ทั้งออร์สัน (Orson), เอมี (Amy) และทาโค (Taco) ต่างก็โพสท่าอย่างแสนซนบนศูนย์กลางของหน้าปัด พร้อมด้วยกระดูกหนังแท้ที่สะท้อนถึงงานหัตถศิลป์ด้านเครื่องหนังอันเป็นเอกลักษณ์ของแอร์เมส

ผ่านหลากหลายสัมผัสแห่งงานช่างศิลป์ ที่เรือนเวลา อาร์โซ ฌูร์ เด กาสแตง ทั้งสามเรือนล้วนถ่ายทอดความโดดเด่นของทักษะอันเชี่ยวชาญและน่าทึ่งไว้มากมาย

เริ่มต้นจากเจ้าสุนัข ออร์สัน ในโทนสีดำและขาวที่รังสรรค์ขึ้นจากงานต่อลายไม้ ราวกับการต่อภาพจิ๊กซอว์ ที่แต่ละรายละเอียดของเจ้าสุนัขตัวนี้ได้ถูกบรรจงตัดอย่างพิถีพิถันละเอียดอ่อน ก่อนจะนำมาประกอบและติดกาวกลายเป็นภาพอันสมบูรณ์แบบ ขณะที่ตะกร้อครอบปาก ดวงตา จมูก และลิ้น ผ่านการวาดภาพระบายสี เพื่อสร้างสรรค์แสงและมิติของภาพบนชิ้นไม้สำหรับต่อลายที่ได้มาจากไม้แปดชนิดแตกต่างกัน เพื่อรังสรรค์หน้าปัดที่ดูราวกับมีชีวิต

ส่วน เอมี พร้อมด้วยแว่นตาตกแต่งลายของเธอได้ถูกสร้างรูปขึ้นภายในห้องปฏิบัติการของช่างแกะสลัก โดยกำเนิดขึ้นจากความชำนาญและความอุตสาหะของศิลปิน ที่งานออกแบบนี้มีชีวิตขึ้นจากปลายพู่กันอันละเอียดอ่อนเพื่อถ่ายทอดไว้ด้วยเฉดสีสันสดใสได้อย่างมีชีวิตชีวา รวมถึงผ่านกระบวนการเผาไฟอย่างต่อเนื่อง ที่ช่วยเสริมความโดดเด่นของโทนสีและรายละเอียดที่แตกต่างกันแม้เพียงเล็กน้อย เพื่อถ่ายทอดเป็นภาพของเจ้าสุนัขแสนซนตัวนี้ 

ถัดมาคือ ทาโค พร้อมแววตาเปื้อนรอยยิ้มที่รังสรรค์ขึ้นจากงานวาดภาพย่อส่วน และงานลงยาแบบคลัวซอนเน (cloisonné) โดยช่างศิลปินจะเริ่มต้นด้วยการระบายชั้นบาง ๆ ของสีลงยาโทนฟ้าลงบนหน้าปัด จากนั้นจึงวาดระบายด้วยมือบนขนสีขาวราวกับเสื้อโค้ทของเจ้าสุนัขเหนือพื้นหลังลายขด เทคนิคงานลงยาแบบคลัวซอนเนนี้ถูกใช้เพื่อย้ำถึงมิติแบบนูนต่ำของลายขนและความมีมิติลุ่มลึกของปลอกคอ โดยการใช้เส้นลวดทองที่มีความหนาแตกต่างกันมาวางเป็นโครงขอบให้กับพื้นที่ที่สำรองไว้สำหรับการตกแต่งด้วยงานลงยา ก่อนที่จะหลอมละลายเส้นลวดทองนี้เข้ากับงานลงยาในระหว่างกระบวนการเผา เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถมอบมิติของการตกแต่งอันประณีตและรุ่มรวยไปด้วยสีสัน

สุนัขแสนซนทั้งสามตัวมาในตัวเรือนนาฬิกาไวท์โกลด์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มม. พร้อมทั้งประดับด้วยเพชร 71 เม็ด ส่วนภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ แอร์เมส เอช1912 (Hermès H1912) ในแต่ละรุ่นจับคู่มากับสายหนังวัว สวิฟต์ (Swift) โทนสีที่เข้ากันกับรุ่นต่าง ๆ ซึ่งผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัดเพียง 12 หรือ 24 เรือน 

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.