เพราะคุณค่าอยู่ในตัวเราทุกคน L’Oréal Paris เดินหน้าส่งเสริมคุณค่าที่คุณคู่ควร เปิดตัวสารคดี ‘THE FINAL COPY OF ILON SPECHT’ คำบอกเล่าครั้งสุดท้ายของ Ilon Specht (ไอลอน สเปชท์) ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังประโยคทรงพลังตลอดกาลของ L’Oréal Paris อย่าง “Because I’m worth it” ที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์วงการโฆษณา แสดงจุดยืนว่าผู้หญิงมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ด้วยตัวเองรวมทั้งสร้างคุณค่าให้กับผู้คนมามากว่า 50 ปี พร้อมพูดคุยกับเหล่าคนดัง อาทิ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ L’Oréal Paris Spokesperson, เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง L’Oréal Paris Makeup Ambassador ณ โรงภาพยนตร์ SF Cinema – The Emprive Club at The Emporium
‘Because I’m Worth it, คุณค่าที่คุณคู่ควร’ คือหนึ่งใน Tagline สุดโด่งดังตลอดกาลอันหนึ่ง ของโลกจาก L’Oréal Paris ที่หลายคนคงคุ้นหูมายาวนานถึงครึ่งศตวรรษ แต่จะมีสักกี่คนที่จะคุ้นเคยกับเรื่องราวและการต่อสู้ และผู้คิดค้นประโยคสั้น ๆ นี้ สารคดี ‘THE FINAL COPY OF ILON SPECHT’ จึงบรรจุเรื่องเล่าครั้งสุดท้ายของ ไอลอน สเปชท์ ครีเอทีฟสาวจาก เอเจนซี่เจ้ายักษ์ McCann New York ที่คิดค้นประโยคนี้ขึ้นมาภายใต้แรงกดดัน ในยุคที่สังคมอเมริกันยังไม่ได้ตื่นตัวเรื่องสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศเช่นทุกวันนี้
ย้อนกลับไปในช่วงปี 70’s แม้คติ Feminist หรือสตรีนิยมจะเริ่มถูกพูดถึงในวงกว้าง แต่สังคมอเมริกันส่วนใหญ่ ยังคงหมกมุ่นอยู่กับความเชื่อแบบชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงมักถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ด้อยกว่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงานหรือหน้าสื่อ ในยุคนั้นบริษัทโฆษณาหลากหลายบริษัทถูกขับเคลื่อนด้วยผู้ชาย โฆษณาสินค้าผู้หญิงหลาย ๆ ชิ้นจึงถูกนำเสนอผ่านมุมมองครีเอทีฟชายที่มักจะบอกให้พวกเธอ ซื้อสินค้าเพื่อดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้ามมากกว่าเพื่อตัวเอง ซึ่งนั่นไม่ใช่ไอเดียที่ดีสำหรับไอลอน
เธอเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง โดยไม่ต้องไปผูกติดอยู่กับผู้ชาย ดังนั้นเมื่อ L’Oréal Paris ติดต่อให้บริษัทของเธอคิดแคมเปญโฆษณา เธอจึงไม่รอช้าที่จะเขียนคำว่า “Because, you’re worth it” ลงบนแผนการโฆษณานั้น และแม้ว่าเพื่อนร่วมงานชายหลาย ๆ คนจะต่อต้านไอเดียนี้ และพยายามโยงประโยคนี้ไปผูกติดกับไอเดียเดิม ๆ ที่ผู้หญิงต้องสวยเพื่อผู้ชายเท่านั้น แต่สุดท้ายความคิดนั้นก็ถูกตีตกไป เพราะ L’Oréal Paris ซื้อไอเดียนี้ของเธอ จนในที่สุดประโยค “Because, you’re worth it” ก็กลายเป็น Tagline ดังที่ไม่เพียงแต่ทำให้คนรู้จัก L’Oreal Paris มากขึ้น แต่มันยังส่งต่อแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงหลากหลายคน พร้อมบอกกับพวกเธอว่า ‘พวกเธอคู่ควรกับสิ่งดี ๆ และเราต่างมีคุณค่าในตัวเอง’ โดยไม่ต้องผูกติดกับสิ่งใด
ณิชา พูดถึงความรู้สึกหลังรับชมสารคดีในครั้งนี้ว่า “เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย หรือเพศหลากหลาย ต่างก็มีคุณค่าในตัวเอง สารคดีชิ้นนี้กำลังบอกกับทุกคนว่าไม่ว่าใครก็คู่ควรที่จะได้รับสิ่งดี ๆ ด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นเราไม่ควรมองข้ามคุณค่าในตัวเอง อย่าเอาตัวเองไปผูกไว้กับใคร และอย่าลืมมอบสิ่งที่ดีให้กับตัวเองอยู่เสมอ”
ในขณะที่เบ็คกี้ เสริมว่า “เบ็คกี้รู้สึกอินมาก ๆ ไอลอนเป็นผู้หญิงที่เก่งและเข้มแข็งคนหนึ่ง สำหรับเบ็คกี้ไอเดียของเธอเป็นเหมือนพลังวิเศษที่ไม่ได้สร้างแค่แคมเปญโฆษณา แต่ยังสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้โลกนี้ได้ ทำให้ตัวเราเองอยากจะใช้ความสามารถและคุณค่าที่มีอยู่ในตัว ส่งต่อแรงบันดาลใจและทัศนคติดี ๆ ไปสู่คนอื่นให้ได้เหมือนที่ไอลอนทำ”
ในปี 2024 ไอลอน สเปชท์ จากไปอย่างสงบในวัย 81 ปี แต่คุณค่า ความเชื่อ และไอเดียของเธอยังคงทำงานกับผู้คนทั่วโลกต่อไป ผ่านคำว่า ‘Worth it’ จากแบรนด์ L’Oréal Paris ที่ยังคงสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับผู้คนอยู่เสมอ เพราะ L’Oréal Paris เชื่อมั่นว่า ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง และทุกคนก็ควรค่ากับสิ่งดี ๆ ด้วยกันทั้งนั้น
รับชมสารคดี THE FINAL COPY OF ILON SPECHT ได้ทาง Youtube TED Official Channel และสามารถติดตามข่าวสารหรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ L’Oréal Paris Thailand
