A TIME IN SENDAI

0
902

Screen Shot 2559-06-27 at 11.21.08 PM

ONCE UPON A TIME IN SENDAI

เซ็นได เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ทรงอิทธิพลในด้านการปกครอง และเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น แต่ถึงแม้จะเป็นเมืองใหญ่และมีความทันสมัยแต่ความก้าวหน้าในด้านต่างๆ ของเมืองได้ผสมกลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างสมดุลย์ เราจะเห็นได้จากหลายๆ แห่งในเมืองมีทัศนียภาพงดงามชวนให้ต้องหยุดมอง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีแม่น้ำฮิโรเซะไหลผ่านกลางเมือง ความสวยงามของต้นเคยะขิที่เชียวชอุ่มเป็นแนวตลอดถนน เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามเรียงรายไปด้วยต้นไม้ มีสวนสาธารณะใจกลางเมือง และด้วยความเขียวขจีของแมกไม้ในเมืองเซ็นไดแห่งนี้ ที่ทำให้นครเซ็นไดได้สมญาว่าเป็น “เมืองแห่งต้นไม้”

เซ็นไดตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือ การมาเที่ยวในเซ็นได สามารถนั่งรถไฟชินกังเซนสายโทโฮะซุจากโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที หรือ จะเลือกนั่งเครื่องบินก็จะช่วยในการย่นระยะเวลาในการเดินทางไปได้พอควร ยิ่งใช้เวลาในการเดินทางน้อยเท่าไหร่เราก็จะยิ่งมีเวลาท่องเที่ยวในเซ็นไดได้มากขึ้นเท่านั้น ใครสะดวกเดินทางแบบไหนก็เลือกและตัดสินใจกันให้ดีๆ

Screen Shot 2559-06-27 at 11.21.58 PM Screen Shot 2559-06-27 at 11.22.29 PM

ภายในเซ็นไดมีสถานที่สำคัญๆ ที่ไม่ควรพลาดมาเยือนอยู่หลายที่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Zuihoden หรือ สุสานซุยโฮเด็งของไดเมียว ดาเตะ มาซามุเนะ ผู้ก่อตั้งเมืองเซ็นได ทางเข้าสู่สุสานเป็นประตูใหม่ สร้างด้วยไม้สนจากอาโอโมริที่มีอายุหลายร้อยปี และตกแต่งด้วยลวดลายงดงามเช่นเดียวกับประตูดั้งเดิม ซึ่งถูกไฟไหม้ไปพร้อมกับตัวสุสานในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวสุสานเป็นอาคารชั้นเดียวที่ตกแต่งอย่างหรูหราวิจิตรบรรจงด้วยทองและลวดลายที่ประณีตบนประติมากรรมแกะสลักอย่างละเอียดอ่อนตามแบบสถาปัตยกรรมโมโมยามะ บริเวณชายคาประดับประดาด้วยไม้แกะสลักสีสันหลากสี สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ.1637 อาคารหลังปัจจุบันสร้างในปี ค.ศ.1979 และมีการซ่อมแซมอีกครั้งในปี ค.ศ.2001 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ

Screen Shot 2559-06-27 at 11.25.39 PM

Sendai Castle Site หรือ ปราสาทเซ็นได ที่บริเวณลานกว้างเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์ไดเมียวดาเตะ มาซามุเนะ ในชุดนักรบควบม้าถือดาบ สร้างในปี ค.ศ.1935 จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซ็นได ซึ่งบริเวณนี้เราสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเซ็นได จนเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมา Osaki Hachimangu Shrine เป็นศาลเจ้าที่ได้รับการก่อสร้างตามคำสั่งของ ไดเมียวดาเตะ มาซามุเนะ สร้างในปี ค.ศ.1607 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของประเทศ Rinnoji Temple เป็นวัดประจำตระกูลดาเตะ สามารถมองเห็นหอเจดีย์ 3 ชั้น และ ห้องทำพิธีชงชา ที่สะท้อนให้เห็นอยู่บนผิวน้ำของบ่อใหญ่กลางสวนญี่ปุ่นที่จัดแบบชิเซ็น ในบรรยากาศที่เงียบสงบ เทพเจ้าที่ประตูทั้งสองข้างถูกกำหนดให้เป็นทรัพยสินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของเมือง Sendai City Museum พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงความเป็นมาของเมืองเซ็นได และสมบัติของตระกูลดาเตะ เสื้อเกราะ และดาบซามูไร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1986 Sendai Daikannon เทวรูปองค์ใหญ่เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งมองเห็นได้จากทางเหนือของใจกลางเมืองเซ็นได มีความสูง 100 เมตรเหนือพื้นดิน และลึก 21 เมตรจากใต้พื้นดิน สามารถเข้าไปชมด้านใน บริเวณด้านบนเราสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบของเมืองเซ็นได และถนนโจเซนจิ – โดริ จะมีต้นเคยะขิเรียงรายไปตลอดสายจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งต้นไม้ งานปั้นของเกรโก้ ความทรงจำในฤดูร้อน และรูปปั้นบรอนซ์ของโกรเซตตี้ สาวน้อยอาบน้ำ ให้บรรยากาศราวกับเป็นแกลอรี่กลางแจ้ง อีกทั้งถนนเส้นนี้ยังถูกใช้ในการจัดงานเทศกาลและอีเว้นท์ ให้ผู้คนได้เข้ามาเดินเยี่ยมชมงานท่ามกลางธรรมชาติที่สวยสดงดงาม

Screen Shot 2559-06-27 at 11.21.19 PM Screen Shot 2559-06-27 at 11.21.31 PM

เซ็นได อาจจะดูเป็นเมืองที่เรียบง่าย แต่ด้วยเสน่ห์ของความเรียบง่ายนี่เอง ที่แฝงได้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์ ที่พร้อมจะโอบกอดผู้มาเยือน ให้อิ่มเอมไปกับบรรยากาศที่แสนโรแมนติก และไม่ว่าจะย่างเข้าสู่ช่วงเวลาไหน ความสวยงามของเมืองเซ็นไดก็พร้อมที่จะเชิญชวนให้นักเดินทางต่างแวะเวียนเข้ามาสัมผัสทุกครั้งไป

Screen Shot 2559-06-27 at 11.21.43 PM

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.