คุณอัญ-อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจค้าเพชรและเครื่องประดับเพชรเบอร์หนึ่งของไทย ที่ทำธุรกิจมายาวนานกว่า 95 ปี เธอในฐานะทายาทรุ่นที่ 4 ที่เข้ามารับไม้ต่อ ก็มีเป้าหมายที่จะนำพาธุรกิจให้เติบโต และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ด้วยความทุ่มเท ไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้ธุรกิจภายใต้การบริหารของเธอเติบโตขึ้นในทุกๆ ปี โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับเรื่องของเทคโนโลยี และการนำฐานข้อมูลมากำหนดกลยุทธ์การทำตลาด และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป
“ปัจจุบันยูบิลลี่ ไดมอนด์ ทำธุรกิจมาได้ 95 ปีแล้ว อัญเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ที่เข้ามาทำงานสานต่อธุรกิจครอบครัวมากว่า 20 ปี การที่เรานำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ทำให้ธุรกิจเราใหญ่ขึ้น ต้องมีความรับผิดชอบ รอบคอบในการทำธุรกิจ และบริหารงานมากขึ้น รวมทั้งต้องมองผลประโยชน์ทั้งของผู้ถือหุ้น นักลงทุน พนักงาน และลูกค้า ซึ่งทำให้บริหารงานในทิศทางที่ถูกต้อง มีหลักธรรมาภิบาลเพิ่มมากขึ้น องค์กรมี direction เพิ่มขึ้น ในฐานะที่อัญเป็นผู้บริหารจะต้องสร้างโอกาสในการพัฒนาองค์ความรู้ พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน แม้แบรนด์ Jubilee Diamond จะมีความแข็งแรงในฐานะเครื่องประดับเพชรแบรนด์ของคนไทย ที่มีมาตรฐานระดับโลก ด้วยคุณภาพเพชรที่คัดสรรมาจากแหล่งเจียระไนเพชรที่ดีที่สุดในโลก ในเมืองแอนด์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม เครื่องประดับทุกชิ้น ทุกดีไซน์จะต้องสวยที่สุด และผลิตอย่างพิถีพิถันที่สุด ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ซึ่งทำร่วมกับโรงงานจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้เครื่องประดับทุกชิ้นของเรามีคุณภาพ และสวยสมกับที่ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้า”
“การดำเนินธุรกิจของยูบิลลี่ ไดมอนด์หัวใจสำคัญคือการให้ความสำคัญกับเรื่องของรายละเอียดทั้งเรื่องของสินค้าและเรื่องของคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพเพชร กรรมวิธีผลิตตัวเรือน และเรื่องการบริการ การที่เราทำธุรกิจค้าปลีก แน่นอนว่า ‘Retail is Detail’ ฉะนั้นการลงรายละเอียดในทุกๆ จุด ใส่ใจในทุกๆ ขั้นตอน ถือเป็นมาตรฐานที่เรายึดถือไว้ตั้งแต่สมัยที่คุณทวดเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่ในวันที่อัญเข้ามารับไม้ต่อก็จะมีส่วนที่บริหารงานแตกต่างจากคุณพ่อบ้าง เพราะด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พนักงานและทีมก็มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างไป รวมทั้งถึงลูกค้าที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ต่างออกไป ฉะนั้นกลยุทธ์การทำตลาดภายใต้การบริหารงานของอัญก็จะปรับให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน”
“ภายใต้การบริหารงานของอัญ จะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี และเรื่องของ Data ซึ่งยูบิลลี่ ไดมอนด์ เรามีฐานข้อมูลลูกค้ากว่า 2 แสนราย ซึ่งเราจะนำมาวิเคราะห์ จัดการ และปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการจัดจำหน่าย ที่ปรับตามพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่านร้านค้าเรา 5 รูปแบบ ทั้งการเปิด Flagship Store ที่สีลม บนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร, Diamond Shop ที่เปิดในห้างสรรพสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดประมาณ 20 สาขา, ร้านที่เป็นเคาน์เตอร์เปิดในห้างสรรพสินค้ามากกว่า 110 แห่ง มีรูปแบบ E – Commerce ช้อปปิ้ง ออนไลน์ 24 ชม. ส่งตรงถึงบ้าน ซึ่งจะเหมาะสมกับคนยุคใหม่ และผู้ซื้อที่อยู่ในจังหวัดที่ไม่มีสาขา และ Outlet Store ซึ่งจะมี 2 สาขา รวมทั้งยูบิลลี่ ไดมอนด์ ยังใช้ AI ให้เข้ามาอยู่ในผลิตภัณฑ์ในคอลเลกชันใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถลิงก์มัลติมีเดียไฟล์ ภาพ วิดีโอที่เป็นความทรงจำ และบันทึกผ่านเครื่องประดับ เพียงลูกค้าใส่เครื่องประดับแล้วเปิดแอปฯ ขึ้นมา ภาพถ่ายหรือวิดีโอก็ปรากฏขึ้นมาได้ทันที ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นกระแสที่มาแรง เราก็ต้องพร้อมให้บริการ สร้างฐานข้อมูลเพื่อนำไปใช้สร้างกลยุทธ์ในการทำตลาดในอนาคต”
“ยูบิลลี่ ไดมอนด์ เป็นแบรนด์เพชรอันดับหนึ่งของไทย ถ้ามีโอกาสก็อยากสร้างแบรนด์ไปสู่ระดับสากล ซึ่งอาจจะเป็นการรุกตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น สร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จัก และเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย รวมทั้งอัญเองก็จะพยายามสร้างสรรค์ พัฒนา และสร้างมาตรฐานการทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อยกระดับให้ยูบิลลี่ ไดมอนด์ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ที่ได้การยอมรับจากทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศ ต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตั้งใจเข้ามาซื้อเครื่องประดับเพชรแบรนด์เราเพราะมั่นใจในคุณภาพ และมาตรฐานในระดับโลก”
ติดตามอ่านได้ในนิตยสาร HOWE ฉบับ 127
สามารถสั่งซื้อ E-Book ผ่านทาง Meb : https://www.mebmarket.com/ebook-338612-Howe-No–127
