วิกฤติโควิด ไม่ได้แค่สร้างความหวาดหวั่นให้กับประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่หากมองในอีกมุมหนึ่งของวิกฤติ สถานการณ์เช่นนี้ยังทำให้เกิดบุคคลที่จะมาชี้นำแนวทาง และแนวคิดใหม่ที่ทำให้เกิดโอกาสและทางรอดในธุรกิจ ซึ่ง “หมอกี้-อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์” สัตวแพทย์สาวที่มีธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าในตลาดพลังงานก็เป็นอีกบุคคลที่ทรงอิทธิพลในการนำพาธุรกิจของตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยจากวิกฤติที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกัน
ตั้งแต่ธุรกิจคลินิกรักษาสัตว์ไปจนถึงธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้า ประเภทป้องกันการระเบิดและโคมไฟประหยัดพลังงานและรายงานผลสภาพอากาศผ่าน Sofeware platform ซึ่งทั้งหมดเป็นธุรกิจที่นักธุรกิจสาวอย่าง “หมอกี้-อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์” บอกว่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้แตกต่างไปจากนักธุรกิจคนอื่นเลย “วิกฤติโควิดกระทบเราโดยตรงค่ะ เรียกว่า ทำยอดขายของเราลดลงไปเลย เพราะลูกค้าชะลอการซื้อ ชะลอการก่อสร้างโครงการ ขณะที่เราเองก็เป็นเหมือนผู้รับเหมารับงานตามโปรเจกต์ ซึ่งช่วง 1-2 เดือนแรก ลูกค้าของเราก็แทบจะหายไปหมดเลย แต่นั่นก็ทำให้เราต้องกลับมาคิดหาวิธีที่จะทำให้คอนเนกกับลูกค้าได้เหมือนเดิม และเรื่องของมีเดียก็เป็นสิ่งที่เรานำมาใช้ในช่วงเวลานั้น”
“แต่ทั้งนี้เราก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ค่ะ โดยใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อคอนเนกกับลูกค้า ซึ่งก็ทำให้เราคุมสถานการณ์ได้ แต่ทั้งนี้อยากจะบอกว่าเวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็ตาม เราทุกคนต้องร่วมมือกัน พูดคุยถึงปัญหาที่เกิด จากนั้นก็มาหาทางแก้ไข โดยที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมแก้ไข แชร์ความสามารถ แชร์ความคิด และลงมือปฏิบัติ และต้องทำทันที อย่ารอช้า เราต้องทำก่อนคนอื่นให้ได้” และด้วยวิธีนี้ทำให้หมอกี้ผ่านวิกฤติที่เกิดขึ้นได้
“วันนี้เราคิดว่าเราเอาอยู่เพราะเรารีบทำก่อน พอทำแล้วก็จะเห็นช่องทางอื่นๆ อีก และปีนี้เราก็สามารถขยายโปรดักส์ของเราได้เพิ่มขึ้นถึง 3 ตัว ขณะที่คนอื่นยังคงชะลอการลงทุน” ถือเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่พลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสได้จริง
สิ่งที่เกิดขึ้นหมอกี้เรียกว่าเป็นมุมมองของการเป็นผู้นำองค์กร “เป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ค่ะ การเป็นผู้นำองค์กรหรือผู้นำที่ดีนั้นจะต้องกำหนดไดเรกชันขององค์กรได้ชัดเจน หากวิสัยทัศน์ของผู้นำถูกต้อง และกว้างไกลก็จะสามารถนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้”
ซึ่งเคล็ดลับของการสร้างความสำเร็จในความเป็นผู้นำ หมอกี้ยังเผยด้วยว่าจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของ Mission และ Vision “เราต้องทำให้ทุกคนในองค์กรมองเห็นภาพที่จุดเดียวกัน พร้อมกับการปรับมายด์เซตให้กับเด็กๆ ทุกคนไปในทิศทางเดียวกัน ขณะเดียวกัน ก็ต้องให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีความยืดหยุ่น มีความเป็นตัวเองสูง แต่ก็ต้องยังคงเป้าหมายเหมือนกันไว้เสมอด้วย” ด้วยวิสัยทัศน์เหล่านี้ จึงทำให้หมอกี้ประสบความสำเร็จมาทุกครั้ง”
“ความสำเร็จของเราเองคือการได้ยินคำว่าโตขึ้นโดยที่ไม่ได้ตั้งเป้า แต่ว่าจะต้องมีรายได้เป็นตัวเลขมหาศาล แต่เราชอบมองการเติบโตทางธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ไปได้เรื่อยๆ ไม่ช้าหรือไม่เร็วเกินไป เพราะเราเสพความอิ่มเอมกับการได้เห็นองค์กรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และทำงานโดยที่ไม่ได้ให้เป้าหมายมากดดันตัวเรา เราจะต้องทำงานกันอย่างมีความสุข เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีและมีความปรองดองภายในองค์กร”
จะว่าไปแล้ว ไม่ใช่แค่ความสำเร็จเท่านั้นที่นักธุรกิจสาวคนนี้มอง “กี้เองเป็นคนที่สนุกกับการสร้างอะไรใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับการทำงานในทุกวัน ความสนุกเหล่านั้นทำให้เรามีความสุขและเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีพลังในการทำงานทุกวัน” การได้พัฒนาโปรดักส์ที่ไม่เหมือนใคร ให้เกิดขึ้น หมอกี้บอกว่านี่คือสิ่งที่มาช่วยเติมเต็มความสุขให้กับเธอมากๆ และทำให้หัวใจของเธอพองโตในทุกครั้ง