ยังคงเป็นที่จับตามองไม่น้อย กับประเด็นร้องของ “หนุ่ม” ศรราม เทพพิทักษ์ และอดีตภรรยาสาว “ติ๊ก” กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หลังจากที่ หน่ม ศรราม ออกมาโพสต์ใบหย่าและเป็นผู้ดูแลลูก “น้องวีจิ” แต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งในเวลาต่อมาติ๊กได้ออกมายอมรับว่าเป็นหนี้และติดการพนันออนไลน์
ล่าสุด “หนุ่ม ศรราม” ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการแฉ ทางช่อง GMM 25 ถึงประเด็นนี้ ที่เจ้าวตัวเผยว่าโอกาสที่จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันกับติ๊กฉันท์สามีภรรยานั้นยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ตนและติ๊กยังมีหน้าที่ที่สำคัญคือความเป็นพ่อและแม่ของน้องวีจิ พร้อมเผยต่อว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะบัตรเอทีเอ็มหายและวงเงินเต็ม เพราะมีคนไปกด หลังจากนั้นตนก็ได้ไปแจ้งความ ซึ่งทางธนาคารก็ได้แจ้งมาว่าเป็นคนใกล้ชิด และเมื่อได้ดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าเป็นติ๊ก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ให้ดูเส้นทางการเงินของติ๊กไปถึงการพนันออนไลน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้บอกว่าแบบนี้มีความผิดอะไรบ้าง ตนก็เลยต้องถอนฟ้อง
ก่อนหน้านี้ตนเคยบอกติ๊กไปแล้วว่าให้ปรับปรุงตัว มีหนี้สินอะไรก็จ่ายไปให้ตอนนั้นเคยเคลียร์ไปให้ 7 แสนกว่าบาท ส่วนจะติดการพนันออนไลน์มาตั้งแต่ก่อนแต่งงานไหมนั้น ตนไม่รู้ ซึ่งตรงนี้ตนมองว่า “จำนวนเงินไม่เป็นไร แต่เจตนามันสำคัญ” รับรู้ก่อนตั้งแต่ก่อนแต่งเรื่องหนี้สินของอีกฝ่าย ก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้
แต่พอมาถึง ณ วันนี้ ก็พอจะเดาได้ว่ามันไม่ได้เกิดการแก้ไขและปรับปรุงตามที่เคยขอไว้ มันก็มาเรื่อยๆ จนถึงเรื่องของหน้ากากอนามัย ตนไม่รู้เรื่องตั้งแต่แรก มารู้อีกทีคือมีคนฟ้องติ๊ก ก็เลยต้องช่วยเขา เลยเอาเช็คที่ป็นเงินส่วนตัวไปปิดให้ 9 แสนบาท และหลังจากนั้นก็ยังมีปัญหาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เรื่องยาเสพติดนั้น ไม่กล้าตอบว่ามีหรือไม่มี เพราะตนไม่รู้ แต่ถามว่าเรื่องที่ตอบได้ก็จะตอบให้ฟัง แต่อะไรที่ไม่รู้ก็คงตอบไม่ได้
สิ่งที่แย่กว่าเรื่องหน้ากากก็คือ ช่วงโควิดที่ผ่านมามีคนมาตามทวงเงินถึงหน้าบ้าน ในขณะที่ตนไปถ่ายละคร ซึ่งที่บ้านตนมีคุณแม่ที่แก่และมีลูกที่ยังเล็ก มันไม่มีความปลอดภัย อีกทั้งยังมีคนโทรมาทวงหนี้เยอะขึ้น จนตนต้องหยุดความสัมพันธ์ อีกทั้งเรื่องเงินมัดจำที่ตนได้รับงานไว้ ก็เพิ่งมารู้ว่าติ๊กได้รับเงินมัดจำก้อนนั้นไปตั้งนานแล้ว แต่ติ๊กบอกว่าคนที่จ้างงานเลื่อนจ่าย
ก่อนเผยต่อว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้ถามฝ่ายหญิงว่า “ถ้าพี่มีเงินไม่พอใช้หนี้เอาทองของลูกไปขายได้ไหม” ติ๊กกลับบอกว่าเอาทองขายไปแล้ว แม้จะบอกว่าขายไปบางส่วนก็ตาม เรื่องเงินเดือนตนให้เงินเดือนติ๊กเดือนละ 3 หมื่น ไม่รวมค่ากินค่าอยู่ ค่าซื้อของ พี่เลี้ยงเด็ก ค่านมลูก ฯลฯ ซึ่งเงิน 3 หมื่นนี้ให้ไปใช้ส่วนตัวอย่างเดียว ไม่ใช่ 200 บาท 500 บาท ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตนมองว่าการปรับปรุง การแก้ปัญหามาถึง ณ ปัจจุบัน เราคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไม่ได้ เพราะการที่เอาทองของลูกไปขายนั้นมันไม่สมควร เพราะเป็นน้ำใจของผู้ใหญ่ที่เอาของขวัญมาให้หลาน ซึ่งทองที่ได้กลับมาก็ได้ของ “มอส” คนเดียว เพราะเป็นล็อกเก็ตรูปหน้าน้องวีจิ ซึ่งตอนนั้นติ๊กให้พี่วินมอเตอร์ไซค์ที่คอยดูแลอาหารที่บ้านพาไปจะเอาทองไปขาย พอพี่วินเขารู้ว่าเป็นล็อกเก็ตรูปหน้าน้องวีจิก็เลยขอซื้อต่อในราคา 4,500 บาท เก็บเอาไว้และเอามาคืนตน ซึ่งสำหรับตนแล้ว สลึงหนึ่งก็ไม่ควรขาย
ทั้งนี้ตนไม่ได้อยากออกมาพูดเรื่องส่วนตัว เพราะมันเจ็บทั้งคู่ แต่คนที่แย่ที่สุดคือลูก ณ วันนี้ติ๊กออกมาขอโทษตนเอง ขอโทษลูก ขอโทษสังคม ขอโทษทุกคนแล้ว แต่ตนขอดูการกระทำของติ๊กสักระยะหนึ่ก่อนว่ามีความปลอดภัยจริงไหม เพราะการกระทำสำคัญมากกว่าคำพูด เรื่องการเจอลูกนั้น ให้ติ๊กติดต่อทางเจ้าหน้าที่กฎหมายของตน เพราะไม่สามารถมาเจอที่บ้านได้แน่นอน ถ้าจะไปเจอที่ ที่ติ๊กพักอยู่ ติ๊กได้เคลียร์หนี้สินครบหรือยัง เลิกเล่นการพนันหรือยัง และที่ต้องออกมาพูดเพราะทุกอย่างคือความปลอดภัยของแม่และของลูก ซึ่งถ้ายังมีคนมาทวงหนี้ ตนก็ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้
แต่ทั้งนี้แม้ว่าตนและติ๊กจะไม่ได้กลับมมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ แต่เราก็ยังมีหน้าที่ความเป็นพ่อและแม่ ยังไงติ๊กก็ยังเป็นแม่ของลูก ก็เหมือนกับที่มีหลายๆคนถามว่าเวลาโพสต์อะไรในไอจีทำไมถึงยังแท็กไปหาติ๊ก เพราะตนไม่ได้โกรธเคืองอะไรติ๊ก และพร้อมให้โอกาสปรับปรุงตัว
ก่อนเผยว่า “การกระทำแบบนี้ คนรักกันเขาไม่ทำกัน มันทำแบบนี้มันทำกันไม่ได้ คุณขโมยของๆเรา เอาของๆลูกไปขาย แล้วจะให้ผมเดินต่อยังไง เราไปกันไม่ได้ มันต้องยอมรับความจริงว่าเราไปกันไม่ได้ แต่เราต้องเป็นพ่อแม่ให้วีจิให้ได้ ต้องแก้ไขปรับปรุงเพื่อลูก แล้วอะไรที่ไม่ดีก็อย่าไปแตะต้อง และกลับมาจะได้พาวีจิไปทานข้าวด้วยกัน จะได้หยุดออกรายการมาพูดอะไรแบบนี้อีกแล้ว”
ซึ่งที่มาวันนี้ ตนมาเพื่ออธิบายตามข้อเท็จจริง และทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนอยากให้กำลังใจติ๊ก ให้กำลังใจตน ให้กำลังใจวีจิ และครอบครัวตนขอขอบคุณมาก ก็เชื่อว่าติ๊กกำลังจะปรับปรุงตัว แต่ขอเวลาสักระยะหนึ่ง ซึ่งการจะเจอลูกตอนนี้มันยังไม่สมควรเจอ จนกว่าจะเห็นการกระทำที่ชัดเจน ก็ขอโอกาสให้ติ๊กแก้ไขปรับปรุงตัวเพื่อลูก เขาอาจจะเป็นภรรยาของตนไม่ได้ แต่ทั้งชีวิตของเขาไม่มีทางที่จะให้วิจีเรียวกเขาว่าไม่ใช่แม่ ยังไงจนตายเขาก็คือแม่ของวีจิ ไม่มีใครจะมาแทนที่เขาได้ เขาต้องกลับมาเป็นแม่วีจิ
ก่อนทิ้งท้ายถึงติ๊กว่า “อยากให้แก้ไขและปรับปรุง ทุกคนก็เป็นกำลังใจให้ พี่และวีวิรอแม่กลับมาอยู่ บ้านแตกไม่มีใครมีความสุข”
ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก รายการ แฉ , โหนกระแส IG sornram_theappitak , mama.veeji
สั่งจองนิตยสาร Howe โดยไม่ต้องรอหาตามแผงสั่งได้ที่
Line : Howemagazine
Fanpage : Howemagazine
รายละเอียดการสั่ง (คลิ๊ก)
อ่านนิตยสาร Howe Magazine ออนไลน์ได้ที่
