ไปละโว้ ชมวังนารายณ์ เยี่ยมบ้านพระยาวิชาเยนทร์

การมาจังหวัดลพบุรีสามารถเดินทางมาได้ง่ายจะเป็นรถบขส. รถยนต์ส่วนตัว หรือจะรถไฟก็แสนสะดวกสบาย ลพบุรีเป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพฯใช้เวลา เดินทางเพียงไม่นานและสามารถไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้สบายๆ และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็ล้วนมีประวัติศาสตร์เรื่องเล่ามากมายที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของเมืองลพบุรีในสมัยก่อน สถานที่แรกที่จะกล่าวถึงนี้เป็นวัดบันไดหิน สร้างขึ้นในสมัยพระนารายณ์มหาราช ปัจจุบันเป็นวัดร้างเหลือเพียงผนังสองด้าน มีประตูหน้าต่างที่เป็นศิลปะแบบโค้งแหลม ด้านหลังมีเจดีย์ขนาดใหญ่

 

ใกล้กันเป็นที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ภายในมีศาลาเปลื้องเครื่อง เดิมทีใช้เป็นที่สำหรับพระเจ้าแผ่นดินเปลื้องเครื่องทรงก่อนเข้าพิธีทางศาสนา ถัดมาเป็นที่ตั้งของพระปรางค์องค์ใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลงตั้งแต่ฐานถึงหน้าบัน เหนือขึ้นไปก่อด้วยอิฐจนถึงยอดประดับด้วยลวดลายปูนปั้นอันงดงามใกล้ๆ กันจะพบพระปรางค์องค์เล็กภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง รูปพระพุทธเจ้าและสาวกเขียนด้วยสีฝุ่น เจดีย์รายและพระปรางค์ที่อยู่นอกเขตระเบียงคดชั้นนอกเป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น และยังมีเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างระเบียงคดชั้นในและชั้นนอก เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย อีกจุดที่ต้องไปดูให้เห็นกับตา วิหารเก้าห้อง ลักษณะเป็นวิหารที่มีผนังยาวมีเสากั้นรวมเก้าช่วงเสา หน้าต่างทรงโค้งงดงาม หากเดินไปสุดกำแพงด้านทิศใต้จะเห็นเรือนไม้สีขาวหลังใหญ่ ปัจจุบันเป็นสถานที่ปฏิบัติงานของหน่วยศิลปากร

อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของนักท่องเที่ยวถ้ามาลพบุรีต้องไม่พลาดที่จะมาโบราณสถานที่แห่งนี้ พระปรางค์สามยอด เป็นโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีที่สำคัญ ลักษณะเป็นปราสาทขอมในศิลปะบายน โครงสร้างเป็นศิลาแลงประดับปูนปั้น สร้างขึ้นในรัชสมัย พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 องค์พระปรางค์เรียงต่อกัน 3 องค์ เชื่อมต่อกันด้วยมุขกระสัน ภายในบริเวณนอกจากปราสาททั้งสามองค์ ทางด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธานมีการต่อเติมวิหารก่ออิฐถือปูนเชื่อมต่อกับปราสาทประธานเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แน่นอนมาลพบุรีครานี้ถ้าจะไม่มาที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือ วังนารายณ์ คงไม่ได้ เพราะเป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.2209 เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์ที่นี่ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2399 และพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์” พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 3 เขต คือ เขตพระราชฐานชั้นนอก ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก สิบสองท้องพระคลัง ตึกพระเจ้าเหา ตึกรับรองคณะทูตต่างประเทศ โรงช้างหลวง 10 โรง เขตพระราชฐานชั้นกลางมีอาคารต่างๆ ได้แก่ พระที่นั่งจันทรพิศาล พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ ธัญญมหาปราสาทหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ ประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์เชื่อมติดกัน ได้แก่ พระที่นั่งพิมานมงกุฏ พระที่นั่งสุทธิวินิจฉัย พระที่นั่งไชยศาสตรากร และพระที่นั่งอักษรศาสตราคม ทิมดาบ หรือที่พักของทหารรักษาการณ์ และสุดท้ายเขตพระราชฐานชั้นในมีพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ และหมู่ตึกพระประเทียบ ปัจจุบันวังนารายณ์ได้ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ โดยมีการแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โบราณวัตถุต่างๆ ที่พบในลพบุรี รวมถึงพระที่นั่ง และสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชหลงเหลือให้ชมอยู่ และยังคงมีมนต์ขลังไม่เสื่อมคลาย

และเราก็เดินทางมาถึงบ้านหลวงรับราชทูต หรือ บ้านวิชาเยนทร์ ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อคราวรับราชทูตฝรั่งเศส และระหว่างที่ไม่มีคณะทูต พระนารายณ์ได้โปรดให้ออกญาวิชาเยนทร์ เป็นผู้ดูแลหมู่ตึกนี้ จนทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นบ้านของออกญาวิชาเยนทร์ ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ด้านตะวันออกถูกใช้เป็นบ้านพักของคณะทูต ชาวฝรั่งเศส ส่วนด้านตะวันตกเป็นบ้านพักของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ขุนนางชาวกรีก และท้าวทองกีบม้า ส่วนกลางเป็นที่ตั้งโบสถ์ของคริสต์ศาสนา ที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Renaissence ผสมสถาปัตยกรรมไทยแห่งแรกของไทยและของโลก การไปเที่ยวละโว้ หรือลพบุรีคราวนี้ไม่ใช่มีเพียง รูปถ่ายกลับมาเท่านั้น แต่ได้ยังเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกมากโขเลยเชียว บอกเลยออเจ้าทั้งหลายอย่าพลาดมาชมเมืองนารายณ์ที่อดีตเคยรุ่งเรือง นะเจ้าคะ