“กาแฟ” หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมที่หลายคนดื่มในยามเช้าหรือยามง่วงนอน เพื่อปลุกสมองให้ตื่นตัว แต่น้อยคนอาจไม่รู้ว่านอกจะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าแล้ว กาแฟยังมีประโยชน์ทางการแพทย์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ป้องกันโรคพาร์กินสัน ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ อัลไซเมอร์ หืด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม
ส่วนกาแฟจะมีประโยชน์มากแค่ไหน ก่อนอื่นเรามาดูประโยชน์ของกาแฟกันก่อนเลยประโยชน์ของกาแฟ ต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาของนักวิจัยจากศูนย์วิจัยในสวิตเซอร์แลนด์ พบว่าเมล็ดกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อื่น
นอกจากนี้ประโยชน์ของกาแฟ ยังช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆได้แก่
- ช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจ
- ช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ
- ช่วยป้องกันโรคหอบ
- มีกรดอะซิติก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งช่องปาก
- ช่วยลดการเกิดโรคตับจากการดื่มสุรา
- ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะจากการเมาสุรา
- การดื่มกาแฟหลังอาหารช่วยลดความอ้วนได้
- กาแฟเข้มข้นจะทำให้ออกไซด์แตกตัวช่วยชะลอความแก่
กาแฟยังได้ถูกนำเอามาใช้เป็นส่วนผสมเกี่ยวกับเรื่องของความสวยความงาม โดยเฉพาะการลดน้ำหนัก สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะกลิ่นของกาแฟสามารถลดอาการอยากอาหารได้ กาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีน ที่มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระชวย ช่วยขจัดความอ่อนล้า ซึ่งการดื่มกาแฟจะช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น เป็นสารที่ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย สลายเป็นพลังงานความร้อน
โดยเวลาที่เหมาะสมของการดื่มกาแฟเพื่อช่วยให้ออกฤทธิ์ในการเผาผลาญ และย่อยอาหาร คือการดื่มกาแฟร้อน โดยเฉพาะกาแฟดำ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และไม่ใส่นม โดยควรเป็นการดื่มหลังจากรับประทานอาหารเที่ยงประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง หรือเป็นการดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายก็จะช่วยเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความอ้วนหรือในการลดน้ำหนักได้ แถมกากกาแฟยังสามารถนำมาขัดผิว เพิ่มความนวลเนียนน่าสัมผัสได้อีกด้วย
ข้อมูล-รูปภาพจาก domino.com , suzuki-coffee.com , pinterest.com , theworldnews.net , fitnessblackbook.com