เป็นที่น่าสนใจและเรียกเสียงฮือฮาเป็นวงกว้างเมื่อมีชื่อ เอม – สรรเพชญ์ คุณากร ปรากฏขึ้นพร้อมขึ้นแท่นเป็นพระเอกหน้าใหม่ในสังกัด เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ และกำลังจะมีผลงานการแสดงซีรีย์เรื่องแรก 9 Years of You แต่ละปีที่มีเธอ ในบท ‘ภารัณ’ คาแรคเตอร์ที่มาจากตัวตนของเจ้าตัวและยังเป็นการเปิดซิงการแสดงเรื่องแรกกับการเป็นพระเอกเต็มตัวครั้งแรก ที่ผ่านการกำกับโดยคุณบอย – ถกลเกียรติ วีรวรรณ

ซึ่งในวันนี้เราได้มีโอกาสนัดสัมภาษณ์พระเอกหนุ่มใหม่แกะกล่อง เอม – สรรเพชญ์ คุณากร ถึงมุมมองในเรื่องต่างๆ รวมไปถึงผลงานการแสดงซีรีย์ 9 Years of You แต่ละปีที่มีเธอ ผลงานการแสดงซีรีย์เรื่องแรกที่เจ้าตัวได้ประกบคู่กับศิลปินและนักแสดงมากความสามารถอย่าง เฌอปราง อารีย์กุล อีกด้วย

“ต้องบอกก่อนว่าซีรีย์เรื่อง 9 Years of You แต่ละปีที่มีเธอ เป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกของผมและเป็นซีรีย์ที่ผมอยากเล่นมาก เพราะด้วยตัวบทและคาแรคเตอร์ของภารัณตัวละครที่ผมเล่นได้ถูกสร้างขึ้นมาจากบทสัมภาษณ์ที่ผมได้พูดคุยกับทางคุณบอย ถกลเกียรติ ผู้เขียนบทโดยตรง และยังเป็นเรื่องราวที่ผมถือว่าได้ครบในฐานะที่เป็นทั้งนักแสดงมือใหม่ ได้ลองทำทุกอย่างจริงๆ และเป็นเรื่องราวที่มีความน่าสนใจทุกอย่างเพอร์เฟคมากสำหรับผม”
“ด้วยความที่ตัวละครภารัณที่ผมเล่น ถูกสร้างขึ้นมาจากคาแรคเตอร์ของตัวผม ฉะนั้นจะมีบางรายละเอียดที่คล้ายๆ กัน ตัวละคร ‘ภารัณ’ เป็นความมั่นคงเหมือนเป็นเสาหลักของเพื่อนในกลุ่ม ภารันจะเป็นคนนิ่งๆ เก็บตัว เวลามีปัญหาจะใช้สมองมากกว่าอารมณ์ความรู้สึก เหมือนการปกป้องตัวเองในรูปแบบหนึ่ง ก็เป็นการเรียนรู้ระหว่างการใช้สมองกับการใช้หัวใจด้วยเพราะทั้งสองอย่างก็สำคัญ แต่มีที่ไม่เหมือนเลยคือภารันอาจจะเป็นตัวละครที่มีความมั่นใจมากกว่าผม ซึ่งตัวผมเป็นคนที่ค่อนข้างเป็นคนคิดมากแต่ตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ก็พยายามพัฒนาตัวเองอยู่ทุกวัน”

พอถามถึงการร่วมงานกับคุณบอย ถกลเกียรติ ทางพระเอกหนุ่ม ตอบว่า “การได้ทำงานกับคุณบอยถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับตัวผม เพราะเป็นซีรีย์เรื่องแรกของผมด้วย เหมือนทุกคนชอบพูดว่าคุณบอยดุ ก็ดุจริง แต่เป็นความดุที่มาจากเจตนาที่ดีเสมอ ทุกอย่างที่คุณบอยพูดมักมีเหตุผลเสมอ ตรงนี้เลยเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณบอยเป็นคนที่ใส่ใจทุกรายละเอียดและเป็นคนที่ทุ่มเท เพราะไม่ได้ปล่อยผ่านเพียงแค่ผ่านๆ ให้งานเสร็จ แต่คุณบอยโอเคกับการแสดงของเราจริงๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเชื่อใจมากในฐานะนักแสดง ตัวผมเองก็อยากที่จะเป็นคนแบบนั้นเหมือนกัน ทำให้ผมเข้าใจและกระตุ้นให้ผมอยากทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุดเหมือนกัน”
ส่วนการทำงานกับเฌอปราง มีสิ่งที่คาดไม่ถึงในหลายๆ อย่างอยู่เหมือนกัน “นิสัยจริงๆ ของเฌอปรางมีความเป็นเด็กน้อยมาก ผมไม่เคยนึกเลยว่าเขาจะเป็นแบบนี้ ด้วยความที่เฌอปรางเป็นกัปตัน BNK48 ดูเป็นคนจริงจัง เรียนสายวิทย์ เป็นผู้จัดการวง แต่ความจริงเฌอปรางกับเป็นคนที่มีบุคลิกแบบเด็กน้อยมาก แต่ในความโก๊ะๆ ตลกๆ กับเป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้าง และเป็นอีกคนที่มีความคล้ายกับคุณบอย เป็นคนละเอียดเก็บทุกดีเทล ที่สำคัญเลยคือเฌอปรางช่วยผมได้เยอะมาก ช่วยแนะนำและคอยเป็นที่ปรึกษาในหลายๆ เรื่อง เวลาทำงานด้วยกันก็สบายใจ ผมรู้สึกโชคดีที่เหมือนเราทั้งคู่พูดภาษาเดียวกัน เวลาต้องเข้าฉากกับเฌอปราง ถ้ามองย้อนกลับไปไม่มีซีนไหนยากเลย ตอนแรกอาจมีกังวลบ้าง วันแรกเลยจะเป็นซีนอารมณ์มีร้องไห้ ทะเลาะกันแล้วก็มีจูบ แต่วันก่อนหน้ามีไปเวิร์คชอปเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้ลองแสดงเต็ม แต่เหมือนเราคุยกัน เข้าใจกันเลยไม่มีความกังวลเวลาที่ต้องเข้าฉากด้วยกัน”

พอถามถึงมุมมองความรัก หนุ่มเอม ตอบว่า “พอเราโตขึ้นมุมมองความรักก็เปลี่ยนไป เพราะผมมองว่าความรักมีหลายรูปแบบ เป็นความรู้สึกที่หลากหลายมาก ตอนเด็กเราอาจแค่หลง เราไม่ค่อยเข้าใจในความรักสักเท่าไหร่ ถามว่ารักแรกเป็นยังไง รักแรกดอกไม้บานในใจสุดๆ เราก็ซื้อของเล่น ซื้อของให้ เราชอบใครก็อยากจะอยู่กับคนนั้นอยากคุยกับเขา แต่ถ้าตอนนี้ความรู้สึกจะไม่ง่ายขนาดนั้น อาจจะมีความหลงนิดนึง สเต็ปต่อมาเราเข้ากันได้รึเปล่า อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจไหม และสำคัญเลยเราเป็นตัวของตัวเองสำหรับเขาได้รึเปล่า และเขาเป็นตัวของตัวเองกับเราได้รึเปล่า ไม่ได้อยากพูดว่า ไม่ต้องมีความพยายามเพราะต้องพยายามแต่ไม่ต้องมีความเฟคไม่ต้องมาคอยแอคใส่กัน ผมมองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในความรัก”
ความฝันที่ไม่เคยเปลี่ยนเพียงแต่รอเวลาและโอกาส “ผมเป็นคนไม่ได้มีความฝันที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่ตอนเด็กเคยฝันว่าอยากเป็นเจ้าของสวนสัตว์ เพราะอยากอยู่กับสัตว์ ตอนนี้ความอยากเป็นเจ้าของสวนสัตว์ก็ยังมีอยู่ไม่ได้หายไป และก่อนหน้านี้ผมก็มีเตรียมตัวที่จะไปเป็นสัตวแพทย์ แต่ตอนนี้ก็ลองมาทำงานตรงนี้ดูก่อน การเป็นนักแสดงก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมรัก ผมทำแล้วสนุกมีความสุขมาก ผมอยากลองทำทุกอย่างไม่ได้มีโกลที่ชัดเจน แต่โกลจริงๆสำหรับผมคือขอให้มีความสุขแค่นั้น”

บทเรียนจากอดีต เรื่องการสูญเสีย เรื่องการเสียดาย สอนให้เป็นคนเต็มที่กับทุกอย่างและให้อยู่กับปัจจุบัน “ส่วนตัวผมไม่ได้มีประสบการณ์กับตัวเองโดยตรง แต่จะเป็นเรื่องของความรู้สึก ผมรู้สึกเสียดายในหลายๆ อย่าง รู้สึกเสียดายในจังหวะใหญ่ๆ เราน่าจะสนิทกับคนนี้ให้ได้มากกว่านี้ เราเสียดายน่าจะใช้เวลากับคนนี้มากกว่านี้ก่อนที่เขาจะเสีย จังหวะแบบนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมานั่งคิดตกตระกอน การสูญเสีย การเสียดายที่ไม่ได้ทำ ความรู้สึกเหล่านี้เป็นแรงที่ทำให้ผมอยากเปลี่ยนตัวเอง อยากใช้ชีวิตให้เต็มที่แล้วอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด”
เราจบบทสัมภาษณ์กับหนุ่มเอมด้วยประโยคคำถามแบบคลาสสิค ‘หากเอ่ยชื่อ เอม – สรรเพชญ์ คุณากร อยากให้ถูกพูดถึงในแง่มุมไหน’ ทางพระเอกหนุ่มตอบกลับมาว่า “ทุกคนจะพูดถึงผมในมุมไหนก็ได้ ขอให้แค่มีความรู้สึกดีๆ ตอนนึกถึงชื่อผม แค่นั้นเลย แต่ถ้าให้ผมพูดถึงตัวเอง สำหรับผู้ชายที่ชื่อ ‘เอม สรรเพชญ์’ ดูเปลี่ยนไปเยอะ เป็นคนที่ดูมีความมั่นใจมากขึ้น เป็นผู้ชายที่เฟรนลี่ เข้ากับคนง่าย และเป็นคนที่อยากให้ทุกคนแฮปปี้มีความสุข”