หากกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย “จีหลง” และ “ตั้นสุ่ย” คือสองเมืองทางตอนเหนือใกล้ไทเปที่ไม่ควรพลาด โดยจีหลง (Keelung) เมืองท่าอันแสนอบอุ่นที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ส่วนทางด้านตั้นสุ่ย (Tamsui) นั้นเป็นเมืองเก่าริมน้ำที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์และบรรยากาศย้อนยุคสุดโรแมนติก โดยทั้งสองเมืองนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั้งชาวไต้หวันและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากโดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสถานที่โดยรอบมีความดั้งเดิมด้วยสถาปัตยกรรมงดงาม บรรยากาศธรรมชาติ อีกทั้งยังเดินทางง่ายเพราะอยู่ไม่ไกลจากไทเป ครั้งนี้การท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ขอพาไปสัมผัสไต้หวันในมุมที่แตกต่างแบบใกล้เมือง ไปกับ 6 แลนมาร์คที่ต้องไปเยือนกันสักครั้งในชีวิต เตรียมจดและตามไปกันได้เลย!
- ออกเดินทางบนเส้นทางธรรมชาติพร้อมสูดรับโอโซนบริสุทธิ์ ณ อุทยานเกาะเหอผิง (Heping Island GeoPark)
เริ่มต้นกันที่อุทยานเกาะเหอผิง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแห่งเมืองจีหลง ซึ่งรายล้อมไปด้วยความงดงามของธรรมชาติที่มาพร้อมกับประวัติศาสตร์อันแสนยาวนาน โดยที่แห่งนี้ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมและออกเดินทางตามเส้นทางธรรมชาติที่ถูกจัดไว้เป็นอย่างดี ใครที่มีโอกาสได้มาเยือนรับรองว่าจะได้เพลิดเพลินไปกับวิวทะเลสีครามและตื่นตาตื่นใจไปกับโขดหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของลมและน้ำทะเลอย่างแน่นอน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยตราตรึงใจสุดๆ อีกด้วย ห้ามพลาดเชียวล่ะ
- เยือน Keelung Landmark Park ดื่มด่ำเสน่ห์แห่งเมืองท่าทางประวัติศาสตร์เมืองจีหลง
ใครมาจีหลงอย่าลืมแวะมา Keelung Landmark Parkหัวใจสำคัญที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของเมืองจีหลง (Keelung) ได้เป็นอย่างดี โดยมีป้าย “KEELUNG” เป็นซิกเนอเจอร์ที่โดดเด่นตั้งอยู่บนเส้นทางเดินเขาหูไจ่ และสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ผสมผสานกับบรรกาศโดยรอบที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมอันเก่าแก่ดั้งเดิมทั้งจากตึกและอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม พร้อมให้เดินเล่นกินลมชมวิวได้ทั้งกลางวันและในยามค่ำคืน เรียกว่าเป็นเมืองท่าที่คึกคักไปด้วยผู้คน และเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลยทีเดียว ใครสายชิลล์บอกเลยว่าต้องถูกใจอย่างแน่นอน
- สัมผัสหัวใจแห่งรสชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิม ณ ตลาดกลางคืนเมี่ยวโข่ว
สายฟู้ดเลิฟเวอร์มาทางนี้ มาจีหลงทั้งทีต้องออกไปตะลุยชิมชอปฟินๆ ที่ตลาดกลางคืนเมี่ยวโข่ว (Miaokou Night Market) ตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองจีหลง และถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนไต้หวัน โดยที่มาของชื่อตลาด “เมี่ยวโข่ว” ที่แปลว่า “ปากวัด” เพราะตลาดตั้งอยู่ใกล้กับวัดเตี้ยนจี้ (Dianji Temple) นั่นเอง เรียกว่าเป็นแหล่งรวมของกินอันหลากหลาย และที่ขึ้นชื่อสุดๆ เลยคงจะเป็นอาหารทะเลที่สดใหม่ พร้อมลิ้มลองเมนูเด็ดมากมายไม่ว่าจะเป็น ซาชิมิสดใหม่, ซุปปลาทูน่า, และ หอยนางรมทอด รับรองอร่อยฟินกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีอาหารสไตล์ไต้หวันแบบดั้งเดิม เช่น บะหมี่น้ำมันหอมเจียว, ขนมจีบปลา, และขนมหวานน้ำแข็งไสอีกด้วย นอกจากนี้ตลาดกลางคืนเมี่ยวโข่วยังเป็นตลาดกลางคืนที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวจีหลง และบรรยากาศคึกคักที่เต็มไปด้วยผู้คนทั้งในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ใครที่ได้มาเยือนจะได้สัมผัสถึงความเป็นกันเองและวิถีชีวิตของชาวไต้หวันอย่างแท้จริง
- ฟินจุดชมวิวทะเลสุดโรแมนติกบนสะพาน Lover’s Bridge ณ Tamsui Fisherman’s Wharf
มูฟมาที่ตั้นสุ่ยกันบ้าง เพราะอดใจไม่ไหวกับความสวยงามของสะพานสุดโรแมนติกที่คู่รักทุกคู่ห้ามพลาดกับ Lover’s Bridge แห่ง Tamsui Fisherman’s Wharf เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและเป็นที่นิยมสำหรับการชมวิวทะเลและพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบและสุดโรแมนติก จุดเด่นของ Tamsui Fisherman’s Wharf คือ สะพาน Lover’s Bridge ที่มีรูปร่างสวยงามและเป็นสัญลักษณ์ของท่าเรือแห่งนี้ สะพานนี้ออกแบบให้เหมือนเรือใบและเปิดให้เห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำและทะเล ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคู่รักที่มาเยือนเพื่อถ่ายภาพหรือเดินเล่นในบรรยากาศโรแมนติก โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีทองและชมวิวทิวทัศน์ที่งดงาม นอกจากนี้ยังมี ตลาดปลาท้องถิ่น และร้านอาหารมากมายที่ให้บริการอาหารทะเลสดๆ ใครที่มาเยือนจะได้ลิ้มลองเลือกชิมเมนูท้องถิ่น เช่น ปลาหมึกย่าง, หอยนางรมสด, หรือซุปปลาทูน่าที่อร่อยและสดใหม่จากทะเลเลยทีเดียว
- ปล่อยใจชมวิวหลักล้าน ณ ท่าเรือที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์ริมแม่น้ำ
ถัดไปไม่ไกลจาก Tamsui Fisherman’s Wharf อยากให้มาต่อกันที่อีกหนึ่งท่าเรือที่มีชื่อว่า Tamsui Customs Wharf ท่าเรือที่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยว โดยท่าเรือแห่งนี้เคยเป็นจุดสำคัญในการค้าขายและการขนส่งระหว่างไต้หวันและต่างประเทศในช่วงยุคอาณานิคมของยุโรป โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์ชิง นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของท่าเรือ รวมถึงอาคารต่างๆ ที่เคยใช้เป็นศูนย์กลางการค้าขายและด่านศุลกากร สถานที่แห่งนี้ยังคงรักษาบรรยากาศของประวัติศาสตร์และมีความสำคัญทางวัฒนธรรมสำหรับเมืองตั้นสุ่ย
- ตื่นตาตื่นใจตำนานป้อมปราการฟีลยุโรปแห่งตั้นสุ่ย ณ Fort San Domingo
เดินทางมาจนถึงที่สุดท้ายของเมืองตั้นสุ่ยที่ควรไปเช็คอินสุดๆ คือป้อมปราการประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งตั้นสุ่ย Fort San Domingo หรือที่รู้จักกันในชื่อ ป้อมซานโดมิงโก เป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของไต้หวัน โดยป้อมแห่งนี้ถูกใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการปกป้องการค้ามหาสมุทรและการขยายอำนาจทางการทหารของแต่ละชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ปัจจุบัน Fort San Domingo ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้เข้าชม ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของป้อมและการเปลี่ยนแปลงของเมืองตั้นสุ่ยจากสมัยอาณานิคมจนถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมป้อมปราการที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำตั้นสุ่ยที่งดงามอีกด้วย
นอกจากนี้จีหลง-ตั้นสุ่ยยังมีอีกหลายแลนมาร์คที่น่าสนใจและอยากให้ทุกคนได้ออกไปเปิดประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเป็น T-HAM Taichuregoubaogong Station, ท่าเรือประมงสุยเหว่ย, ประภาคารฟู่กุ้ยเจี่ยว, วัดเปลือกหอย, สวนจือหลัน และถนนคนเดินตั้นสุ่ยเป็นต้น รับรองว่าประทับใจจนอยากกลับมาเที่ยวไต้หวันดินแดนมหัศจรรย์ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างแน่นอน สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดของทางไต้หวัน ได้จากสำนักงานท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ผ่านทาง https://www.taiwantourism.org/th/ หรือ ช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook : Taiwan Tourism TH