ด้วยใจรักและความหลงใหลในศิลปะ ทำให้คุณป่าน – สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ Creative Director & Art Curator และ คุณคริสซี่ – ศิขรินทร์ ลางคุลเสน Communication & Social media Director ได้ร่วมกันก่อตั้ง บริษัท กราวด์ คอนโทรล จำกัด (GroundControl) เมื่อราว 5 ปีที่แล้ว เพื่อเป็นตัวกลางในการเชื่อมศิลปะ คิลปิน กับแบรนด์สินค้า หน่วยงาน องค์กร หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมถึงบริการต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับงานศิลป์ พร้อมสร้างรายได้ โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานด้าน Arts Creative Services and Publisher ที่ผ่านมาทั้งสองคนช่วยกันผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างน่าอัศจรรย์ จนทำให้ทุกคนยอมรับว่า การสร้างธุรกิจด้วยความเชื่อ และ Passion ก็สร้างความ Success ได้เช่นกัน
คุณป่าน : ป่านกับคริสซี่เริ่มต้นทำงานในแวดวงศิลปะ ป่านทำงานเป็น Creative Space และ Creative Director รวมทั้งเคยเป็น Gallery Manager ส่วนคริสซี่เขาก็ทำ Creative Space อยู่ที่หนึ่ง เรามาเจอกันและรู้สึกว่ามีพื้นฐานความคิด แนวทางการทำงานและความชอบที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งก่อนจะมาเปิดบริษัทร่วมกันตอนนั้นเราไปเที่ยวฝรั่งเศสด้วยกัน แล้วก็พูดคุยถึงความเชื่อ ความชอบ คริสซี่เขาจบปริญญาโทด้าน Art & Culture Management โดยตรง ป่านก็เรียนมาด้านนี้ ยิ่งคุยกันก็รู้สึกว่าเรามีทัศนคติที่สอดคล้องกัน เราเชื่อว่าศิลปะมีบทบาทสำคัญกับชีวิต และสิ่งที่มองเห็นว่าเราจะมีส่วนช่วยให้สังคมไทยเชื่อมโยงกับงานศิลปะได้อย่างไร
คุณคริสซี่ : จริงๆ ตอนที่คุยกันก็ไม่ได้มีเรื่องราวว่าเราอยากทำบริษัทหรืออะไร แต่เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองที่อยากให้เมืองไทยได้มีโอกาสเข้าถึงศิลปะเหมือนฝรั่งเศส อยากเห็นสังคมไทยให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ จนกลับมาเมืองไทย เราก็ทำงานของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นราวปีกว่าๆ มันเหมือนถึงจุด Turning Point ของชีวิต และอยากพาชีวิตก้าวไปอีก Step ที่อยากทำอะไรเป็นของตัวเองก็เลยคุยกับป่านว่า ในวงการนี้ยังมีอะไรที่เราอยากทำได้อีกไหม เราลองเอาความถนัดของแต่ละคนลองมาผนึกกำลังสร้างธุรกิจที่เป็นของเราจริงๆ ขึ้นมา
คุณป่าน : ก่อนก่อตั้งบริษัทเราก็คุยแผนงานมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ด้วยความที่เราเชี่ยวชาญงานด้าน Event แบบ On Ground ก็มีแผนงานการลงทุนที่ชัดเจนพอทำบริษัทได้ 2-3 เดือนโควิดก็มา เราก็วางแผนงานไว้ก่อน หลังจากนั้นเราก็หาอะไรที่จะ Continue งานของเราต่อไป การที่เรามาจับธุรกิจตรงนี้ถือว่าเป็นงานที่เราถนัด เพราะเดินอยู่ในสายงานนี้มาไม่น้อยกว่า 10 ปี ฉะนั้นสิ่งที่เราสั่งสมมา ไม่ใช่มีแค่ประสบการณ์ แต่ระหว่างทางเรายังมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มีกลุ่มลูกค้า มีคนรู้จักเรา ด้วยธุรกิจที่มีความ Unique ทำให้หลายต่อหลายคนเดินเข้ามาหาเรา ซึ่งมองว่าศิลปะ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ เป็นเรื่องที่กว้างมากและอยู่ใกล้ตัว ป่านกับคริสซี่ไม่เคยมองธุรกิจที่ทำว่ามันยากหรือง่าย คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น เพราะเราทำในสิ่งที่เชื่อ ทำให้เรามี Mindset มีพลังที่จะทำ ทุกงานที่ทำไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ ออฟไลน์ เป้าหมายของเราคือเชื่อมโยงโลกศิลปะไปสู่ธุรกิจ และผู้คน Ground Control คือ Art Difference Agency & publisher ทุกอย่างเรา Lead ด้วยงานศิลปะ เรามีหน้าที่สำคัญที่จะเป็นสะพานเชื่อมโลกของศิลปะเข้ากับผู้คน เชื่อมศิลปินกับผู้คน กับแบรนด์ นั่นคือ Business to Artist หรือ B2A รวมทั้งเรายังทำ B2B และ B2C ด้วย
คุณคริสซี่ : เมื่อก่อนคนจะคิดว่า B2A B2C B2B อาจจะไม่ต่อเชื่อมกันเลย ศิลปะเป็นเรื่องไกลตัว แบรนด์สินค้าจะเข้าถึงศิลปะได้อย่างไร ศิลปะจะสร้างความต่างได้อย่างไร เราคือตัวกลางที่เชื่อมสิ่งเหล่านี้ให้เป็นจริง จนทำให้รู้สึกว่าจากวันแรกจนถึงวันนี้สนุกกับงานที่ทำทุกวัน ยิ่งได้ทำในสิ่งที่เชื่อ ก็รู้สึกว่านี่แหละคือตัวตนของเรา ระหว่างทางเราก็ค้นพบเพื่อนที่มีความเชื่อเหมือนเรา จากหนึ่งคน สองคน กลายเป็น Community ที่ใหญ่ขึ้น เราเองไม่ได้โดดเดี่ยว ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ได้ทำในสิ่งที่เป็นตัวตนของเราเอง การที่เรามีความชัดเจน เป็นตัวของตัวเอง ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้คนเชื่อในสิ่งที่เราเป็น เราทำงานเหมือนลูกค้าคือพาร์ตเนอร์ ความสำเร็จของลูกค้าก็คือความสำเร็จของเรา
คุณป่าน : ทุกวันนี้งานศิลปะมัน Matter ขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจเราก็เติบโตตามไปด้วย หากดูภาพรวมของตลาดว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเติบโตไปทิศทางไหน เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยเปลี่ยนวิธีการรับสารของผู้คนไปทิศทางไหน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้งานศิลปะเติบโตได้ ตอนแรกที่เราเปิดบริษัทก็มองไม่เห็นว่าธุรกิจเราจะเติบโต 1,000% หรือ 2,000% จนมาถึงวันนี้เราสามารถทำตรงนี้ได้ ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้กับเทคโนโลยีและรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป คนเดี๋ยวนี้สนใจความเป็น Independently สูง ชอบความต่าง งานอาร์ตก็ช่วย Plug in ในส่วนนี้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
คุณคริสซี่ : งานของ GroundControl นอกจากการเป็นเอเจนซี่และพับลิชเชอร์แล้ว เรายังดูแลศิลปินและจัดงานในส่วนอื่นๆ เสริมเข้ามาให้เราเติบโตมากขึ้น ซึ่งแต่ละเซกเมนต์เราก็มีเป้าหมายการเติบโตที่ชัดเจน พับลิชเชอร์เราเข้าไปร่วมทำงานเป็น Media Partner ให้บริษัทในการจัด Art Event ทั้งระดับ Local ระดับประเทศ ระดับอินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเรามีกลุ่มลูกค้าจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจมากๆ ที่ผ่านมางานอาร์ตในไทยเติบโตในเชิงพาณิชย์มากขึ้น ส่วนตัวมองว่าการนำงานอาร์ตมาผนวกกับธุรกิจเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะสามารถทำกับสินค้า บริการ ได้หลากหลายมากๆ และในอนาคตธุรกิจของ GroundControl จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ศิลปินไทยเติบโตไปพร้อมๆ กับธุรกิจของเรา
