ศ.นพ.สมยศ คุณจักร หลักธรรมนำชีวิตสู่ความสำเร็จ

0
1763
ศ.นพ.สมยศ คุณจักร นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทยปี 2561-63 รวมถึงเป็นอาจารย์พิเศษ หน่วยศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้าภาควิชาโสต ศอนาสิกวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้อำนวยการ ยศการ คลินิก บริษัทยศการ เมติคอล และ บริษัท ยศการ House and Health

จะว่าไปแล้ว การประสบความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคน ไม่เพียงจะต้องใช้ความเพียร ความมานะ และความอดทน เท่านั้น ทว่า หากนำเรื่องราวของหลักธรรมะ ที่มาจากคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประกอบด้วยแล้ว ความสำเร็จที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมีความสมบูรณ์มากขึ้น

เช่นเดียวกับ ศาสตราจารย์นายแพทย์ สมยศ คุณจักร นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทยปี 2561-63 รวมถึงเป็นอาจารย์พิเศษ หน่วยศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้อำนวยการ ยศการ คลินิก บริษัทยศการ เมติคอล และ บริษัท ยศการ House and Health ที่ก้าวมาถึงวันนี้ได้ก็เพราะนำเอาหลักคำสอนในพุทธศาสนา มาใช้ในทุกช่วงของชีวิต


“ผมคิดว่าตัวเราเป็นพุทธศาสนิกชน ขณะที่พุทธศาสนาก็เฟื่องฟูในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้านับตั้งแต่ราตรีที่ตรัสรู้ จนมาถึงวันนี้ ผ่านมามากกว่า 2,600 ปี ได้รับการพิสูจน์ด้วยกาลเวลามาแล้วว่า ทุกสิ่งที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ ล้วนเป็นสัจจธรรม ความจริง เป็นไปอย่างมีเหตุ และผลทุกประการ ซึ่งหากทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติ ก็จะได้ผลจริงๆในมิติของทั้งทางโลก และทางธรรม

“คำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่แค่การสอนเรื่องของทุกข์ และการดับทุกข์เท่านั้นแต่ครอบคลุมทุกมิติในความเป็นอยู่ ของมนุษย์เลย “อย่างที่ท่านเคยตรัสไว้ว่า ปกติคนเรามีความเกี่ยวข้องกับคนรอบข้างในสังคมอยู่แล้วเปรียบเป็นทิศ 6 ทิศ คือ ทิศเบื้องบน (สมณ ชี พราหมณ์) เบื้อล่าง (บริวาร) เบื้องซ้าย (มิตรสหาย) เบื้องขวา (ครูบาอาจารย์) และ เบื้องหน้า (พ่อแม่ปู่ย่าตายาย) เบื้องหลัง (บุตร ภรรยา สามี) ซึ่งแต่ละคนมีหน้าที่ต่อกัน ต้องปฏิบัติต่อกันอย่างไรในคำสอนมีบอกไว้ทุกอย่าง หากทุกคนสามารถปฏิบัติได้ตามนั้น ก็จะทำให้เกิดความสงบสุข ร่มเย็นซึ่งจะตามมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง เริ่มตั้งแต่ในบ้าน ในชาติ และสุดท้ายโลกทั้งโลกก็จะได้รับอนิสงค์ไปด้วย”

ศาสตราจารย์นายแพทย์ สมยศ คุณจักร


ศ.นพ.สมยศ อธิบาย หลักธรรมะ สำคัญๆ ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ และสร้างประโยชน์ให้กับตัวของเราเอง รวมถึงคนที่เราเกี่ยวข้องด้วย “สุจริต 3 พรหมวิหาร 4 สังคหวัตถุ 4 อิทธิบาท 4 ทิฏฐธัมมิกัตถประโยขน์4 และสุดท้ายคือ มรรค 8 ซึ่งรวมเอาทั้งศิลสมาธิและปัญญาไว้เบ็ดเสร็จ ซึ่งทุกหลักธรรมเหล่านี้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ล้วนเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ด้วยการนำไปใช้ได้แล้วจะ เห็นผลจริง”

ทั้งนี้ ศ.นพ.สมยศ ยังได้ย้ำด้วยว่า “รู้สึกโชคดีที่เกิดมาในบวรพุทธศาสนา และโชคดีที่ได้น้อมนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพ ที่ผมไม่ได้แค่ยังประโยชน์ให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นเช่นเดียวกัน


“อย่างไรก็ดี ผมก็หวังว่า ทุกๆ คน จะได้นำเอาแนวทางที่พระพุทธเจ้าได้ทรงวางเอาไว้แล้วไว้เป็นอย่างดีไปประยุกต์ใช้ ผมขอยืนยันในฐานะที่เป็นผู้สูงวัยคนหนึ่งว่า หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีคุณประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันและการทำงานทุกประเภท และ ในฐานะที่ได้ทำหน้าที่แพทย์ดูแลผู้ป่วยมาอย่างยาวนานทำให้ถึงเห็นถึงความไม่เที่ยงแท้แน่นอนในชีวิตและสุขภาพของมนุษย์อยู่เป็นประจำ ซึ่งนำมาซึ่งความทุกข์ลำเค็ญอย่างไม่เลือกเพศเลือกวัยเลือกอายุและเศรษฐานะ คำสอนของพระพุทธเจ้ามิใช่ยังประโยชน์ให้กับเราในขณะยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ยังสอนวิธีให้เราข้ามพ้นจากทุกข์อันเกิดจากการเกิดแก่เจ็บและภาวะใกล้ตายเหล่านี้โดยการสอนวิธีปฏิบัติเพื่อให้พ้นไปจากวัฏสงสาร เหล่านี้ด้วย

“ผมจึงกล่าวได้เต็มปากว่าธรรมะตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงถือเป็นที่สุดของความจริง ที่เราทุกคนควรนำไปใช้ ปฏิบัติในชีวิต เพื่อให้เกิดประโยชนสูงสุดแก่ตนเองและผู้อื่นตลอดชั่วชีวิต”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.