“คุณหนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล” กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบิวตี้ เจมส์ ถือเป็นบุคคลสำคัญที่เข้ามาบริหารและขับเคลื่อนให้บิวตี้ เจมส์ ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์แถวหน้าของเมืองไทย และได้การยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งเรื่องการออกแบบ ฝีมือช่างที่เปี่ยมคุณภาพ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ความเป็นไทย ทั้งเรื่องการออกแบบเครื่องประดับที่คอลแลบส์กับแบรนด์ดีไซเนอร์ไทย รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนงานหัตถศิลป์ อย่างเช่น ผ้าไทย ซึ่งได้ร่วมมือกับองค์กรและชมรมนำเสนอเครื่องประดับผ่านแฟชั่นโชว์ ที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นไทยและความงดงามของงานหัตถศิลป์ไทยว่างดงามไม่แพ้ชาติใดในโลก
“ผมเติบโตมากับธุรกิจจิวเวลรี และซึมซับความชอบงานอัญมณีและเครื่องประดับมาตลอด เป้าหมายแรกที่ผมเริ่มทำงานก็คือ อยากขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งตอนนั้นกลุ่มลูกค้าหลักของเราจะมาจาก OEM แต่ผมมองว่า การสร้างแบรนด์และขายเครื่องประดับ High Jewelry ภายใต้แบรนด์ของเราเองจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและทำให้แบรนด์เราเป็นที่รู้จักมากขึ้น ประกอบกับคุณภาพของอัญมณี ฝีมือช่าง และดีไซน์ ทำให้ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างให้การยอมรับแบรนด์ “บิวตี้ เจมส์” จนทุกวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้เสียงตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยากซื้อเครื่องประดับก็จะคิดถึงแบรนด์บิวตี้ เจมส์ เป็นลำดับต้นๆ ด้วยหัวใจหลักที่เราทำธุรกิจอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ทำให้กลุ่มลูกค้าเก่าและใหม่ต่างไว้ใจในเรื่องของคุณภาพของบิวตี้ เจมส์”
“ทุกวันนี้ผมมองว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอัญมณีและส่งออกเครื่องประดับอัญมณีติดอันดับท็อป 5 ของโลก ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นศูนย์กลางอัญมณีโลก ซึ่งสร้างรายได้ปีละหลายแสนล้านบาท และบิวตี้ เจมส์ เองก็มีส่วนร่วมในการสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศชาติ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจ นอกเหนือจากการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายแล้ว สิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งก็คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ยอดขายทั้งในและต่างประเทศเติบโตขึ้นในทุกๆ ปี จนได้การยอมรับในฐานะแบรนด์ไทยคุณภาพระดับสากล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมภาคภูมิใจ อย่างที่ผมบอกอยู่เสมอว่า แม้ต้องทำงานหนักแต่ผมก็สนุกกับการทำงาน ยิ่งเห็นผลลัพธ์ ยิ่งอยากให้บิวตี้ เจมส์ เติบโตและพัฒนาขึ้นในทุกๆ ด้าน และในทุกช่วงเวลา”

“อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับประเทศ ช่างฝีมือไทยก็เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เครื่องประดับชั้นสูงเป็นศาสตร์สูงสุดของงานศิลปะที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์และทักษะด้านศิลปะ การที่ “BEAUTY GEMS” ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ให้ร่วมสรรค์สร้างงานหัตถกรรมเครื่องประดับโดยช่างฝีมือชั้นครู ผนวกกับพระอัจฉริยภาพและหัวใจรักในงานศิลปะที่ออกแบบเครื่องประดับ จนได้ Fine Jewelry แบรนด์ SIRIVANNAVARI คอลเลกชัน “Amour Éternel” ที่งดงาม ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ความผูกพันอันต่อเนื่องมาจากผลงานการออกแบบในคอลเลกชัน “Heirlooms of Elegance” เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งมีความสมบูรณ์ทางสุนทรียศิลป์ และเป็นการสนองพระราชดำริในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องประดับอัญมณีไทย สู่การยกระดับช่างฝีมือสู่ระดับสากล เพื่อให้ไทยก้าวสู่ศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลกอีกด้วย”
นอกจากนี้ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราได้จัดงานแฟชั่นโชว์ชุดราตรีผ้าไหมไทยโดยร่วมมือกับชมรมเพลินไทยสมัยนิยม จัดงานเพลินพัสตรา ภูษาแห่งสยาม ครั้งที่ 5 ภายใต้งาน “ราตรีอัญมณีแห่งผ้าไทย” (The Jewel of Thai Fabric Night) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลกผ่านเครื่องประดับไทยในฐานะ Soft Power ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก ผ่านความงดงามของเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับจากตัวละครในวรรณคดี บอกเล่าเรื่องราวมรดกทางวัฒนธรรมที่งดงามเหนือกาลเวลาของผ้าไทย และจิวเวลรีฝีมือคนไทย อย่างบิวตี้ เจมส์ ที่ใช้อัญมณีน้ำงามผสานกับฝีมือช่างชั้นเลิศและวัสดุคุณภาพที่ดีที่สุดเพื่อรังสรรค์เครื่องประดับที่งดงามและทรงคุณค่า เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมผ่านผลงานเครื่องเพชรชั้นเลิศของบิวตี้ เจมส์ จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ ซึ่งผมมองว่าการทำธุรกิจและร่วมทำกิจกรรมกับพันธมิตรจะทำให้ธุรกิจของ Beauty Gems เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และในอนาคตก็อาจจะได้เห็นเราคอลแลบส์กับพันธมิตรมากขึ้น” อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับที่เป็นรายได้หลักแล้ว เรายังทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม มีสนามกอล์ฟ The RG Salaya Golf and Sport Club ศาลายา จ.นครปฐม และ The RG City Golf Club รังสิต จ.ปทุมธานี มี Community Mall ชื่อโครงการ “พาร์คเลน” ที่เอกมัย และทำธุรกิจ Refinery ทองคำ และจำหน่ายทองคำแท่งแบรนด์ “Bangkok Assay Office” ซึ่งดำเนินงานในนามบริษัท บางกอกแอสเสย์ออฟฟิส จำกัด โดยตั้งขึ้นเพื่อให้ Beauty Gems สามารถทำ Refinery ทองคำ เพื่อนำมาใช้ทำเครื่องประดับในเมืองไทยได้อย่างครบวงจร ซึ่งรายได้ในส่วนนี้ของเราเติบโตขึ้นทุกปี ผมเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น ชอบทำงาน และชอบพัฒนาตัวเอง การเข้ามาสานต่อธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทำให้เราเติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยชื่อเสียง ศักยภาพของช่างฝีมือ และพันธมิตรทางการค้า ทำให้ Beauty Gems สามารถเติบโตและยืนหยัดในตลาดได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน”