ศันสนีย์ พานารถ “สุขจากการให้และสร้างโอกาส”

0
37

คุณติ่ง หรือ ศันสนีย์ พานารถ เจ้าของและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนอาร์ต คอมพิวเตอร์ จำกัด ปัจจุบันดำเนินธุรกิจนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการพิมพ์ ซึ่งแม้ว่าวันนี้ธุรกิจจะไม่ได้สร้างผลกำไรหวือหวา แต่ยังขับเคลื่อนไปได้ด้วยฐานลูกค้าเก่า ซึ่งเธอตั้งใจว่าจะดำเนินธุรกิจต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำไม่ไหว สิ่งหนึ่งที่เธอภาคภูมิใจที่สุดก็คือ การร่วมสร้างธุรกิจด้วยตัวเองและสามี (วัชระพล พานารถ) จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในช่วง 36 ปีที่ผ่านมานอกเหนือจากงานแล้ว คุณติ่งยังให้ความสำคัญกับการอุทิศตนและทุนทรัพย์สนับสนุนเรื่องการศึกษา เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดโอกาส เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังที่ช่วยทำให้การศึกษาและสังคมไทยดียิ่งขึ้น

            “ในช่วงเริ่มต้นพี่ได้ทำธุรกิจด้านการขายเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และการวางระบบ ปัจจุบันพี่ทำธุรกิจนำเข้าเครื่องจักรสิ่งพิมพ์และอุปกรณ์การพิมพ์แบบครบวงจร ซึ่งต้องบอกว่า ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ดำเนินไปได้เรื่อยๆ เพราะลูกค้าต้องใช้ผลิตภัณฑ์เคมีและเพลตมากกว่าการซื้อเครื่องจักร ซึ่งมีการลงทุนน้อยลงเพราะโรงพิมพ์จะหันมาทำเองแบบครบวงจร รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ก็ลดลงอย่างมาก ซึ่งต้องบอกว่าธุรกิจนี้โอกาสการเติบโตค่อนข้างยาก ฉะนั้นถ้าเราอยากดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคตก็ต้องเพิ่มไลน์ธุรกิจ ธุรกิจตอนนี้ถือว่าอยู่ในจุดอิ่มตัว พี่ว่าจะไม่ส่งต่อธุรกิจให้ลูกชาย (น้องต้า พนิต พานารถ) ตั้งใจจะเกษียณตัวเองไปพร้อมๆ กับธุรกิจนี้ ส่วนน้องต้าอยากทำอะไรก็ตามใจเขา พี่คิดว่าการที่ลูกได้ทำอะไรที่เขาชอบ เขาก็จะมีความสุข เมื่อเขามีความสุข เขาก็จะทำงานตรงนั้นได้ดี”

“ทุกวันนี้พี่ยังทำงานทุกวัน เพราะงานทำให้ชีวิตมีเป้าหมาย ซึ่งสิ่งที่ภูมิใจก็คือเราเป็นผู้ร่วมสร้างธุรกิจกับสามีมาตั้งแต่วันแรก จากผู้หญิงที่มาจากครอบครัวคนธรรมดา ฝ่าฟันจนสามารถร่วมสร้างธุรกิจด้วยตัวเองกับสามีจนประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างสูง พี่ตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งรู้สึกว่าอยากหยุดก็ค่อยเลิกทำ นอกเหนือจากงาน ธุรกิจ และครอบครัว การทำงานเพื่อสังคมก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พี่ให้ความสำคัญและทำมาโดยตลอด พี่เคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมศิษย์ซางตาครู้สคอนแวนท์ ได้ร่วมทำกิจกรรมแรลลีจัดหาทุนช่วยเหลือคุณครูที่เกษียณอายุแล้ว ช่วยเหลือเด็กๆ ทั้งเรื่องทุนการศึกษา จัดกิจกรรมวันเด็ก มอบของขวัญวันเด็ก และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งจะทำกับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร เช่น โรงเรียนวัดโคนอน, โรงเรียนวัดท่าพระ และโรงเรียนในต่างจังหวัด ซึ่งเด็กๆ ส่วนใหญ่จะมาจากครอบครัวที่ขาดแคลนและมีรายได้น้อย เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนให้เด็กเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนโรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์เป็นโรงเรียนที่พี่ศึกษาตั้งแต่ ป.1 จนถึง ม.ศ.5 จึงอยากตอบแทนพระคุณโรงเรียนและคุณครู โดยสนับสนุนกิจกรรมของโรงเรียน เช่น จัดเครื่องเล่นบ้านลมในเทศกาลคริสต์มาส มอบของที่ระลึกในวันครูแด่คุณครูทุกท่าน”

“การที่พี่สนใจให้การสนับสนุนเรื่องการศึกษาเพราะเห็นว่าการศึกษาจะช่วยให้มีชีวิตที่ดี มีอาชีพที่ดี พี่มีเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนมาด้วยกันแต่ไม่จบมหาวิทยาลัย สุดท้ายก็ต้องทำงานหนักเพราะไม่สามารถเลือกงานได้ ฉะนั้นการศึกษาช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พี่เองให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาโดยตลอด คุณพ่อพี่เองเป็นคนจีนที่มีหัวคิดสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวหรือลูกชายทุกคนจะต้องได้เรียนหนังสือ คุณพ่อจบแค่ ป.4 ลำบากสร้างตัวจากที่ไม่มีอะไรเลย พ่อจึงคิดว่าการศึกษาจะช่วยให้ลูกๆ มีคุณภาพชีวิตและอนาคตที่ดี”

“นอกเหนือจากเรื่องการศึกษาพี่เองก็ช่วยเหลือผู้คนในด้านอื่นๆ อย่างช่วงน้ำท่วมก็มีหลายหน่วยงานขอให้ช่วยเหลือ พี่ก็จัดหาข้าวของเครื่องใช้ น้ำดื่มและอาหารไปบริจาค และได้จัดกิจกรรมและช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งบริจาคเข้ากองทุนและโครงการต่างๆ อย่างเช่น การสนับสนุนเงินบริจาคให้กับโครงการ Childhood ในสมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งสวีเดน ซึ่งช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กและผู้หญิงจากการล่วงละเมิดทางเพศและแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ หรือจะเป็นการสนับสนุนบริจาค จัดทำซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 โดยสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) จัดสร้างที่เชิงสะพานดำรงสถิตและแยกหมอมี รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ก็ทำมาโดยตลอด จนได้รับรางวัลสตรีไทยดีเด่นประจำปี 2568 โดยสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ซึ่งถือเป็นความปลาบปลื้มใจ ภูมิใจ และเป็นเกียรติแก่วงตระกูลเป็นอย่างมาก”

            “สำหรับพี่เองและสามี ได้เริ่มต้นจากศูนย์ในการก่อร่างสร้างธุรกิจ วันหนึ่งเรามีโอกาสที่จะสามารถช่วยเหลือผู้คนและสังคมได้ เราก็ควรให้การสนับสนุนเพื่อให้โอกาสแผ่กิ่งก้านออกไป ยิ่งทุกครั้งที่เราทำไปแล้วเห็นผลสัมฤทธิ์มันก็ทำให้รู้สึกดีใจและมีความสุข พี่เคยนำซุ้มอาหารไปแจกในวันเด็ก จำได้ว่าเป็นข้าวขาหมู ก็ได้ยินเด็กคนหนึ่งวิ่งมาบอกกับครูว่า ครูครับผมขอเอากลับบ้านกล่องหนึ่งให้แม่ได้ไหมครับ แม่ผมไม่เคยได้กินอะไรอร่อยๆ แบบนี้เลย ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกซึ้งและอึ้งว่า แม้จะเป็นแค่ข้าวขาหมูก็ยังมีคนที่อาจไม่เคยได้ทาน ฉะนั้นของบางอย่างเราอาจจะมองว่าเล็กน้อยแต่มันอาจจะเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่เป็นความสุขของใครอีกหลายๆ คน ทำให้พี่เชื่อว่า ทุกการแบ่งปันจะสร้างความสุขให้กับผู้คนรอบข้างและตัวเราเองได้อย่างแน่นอนค่ะ”

“วันหนึ่งเมื่อเรามีโอกาสที่จะสามารถช่วยเหลือผู้คนและสังคมได้ เราก็ควรให้การสนับสนุนเพื่อให้โอกาสแผ่กิ่งก้านออกไป ยิ่งทุกครั้งที่เราทำไปแล้วเห็นผลสัมฤทธิ์มันก็ทำให้รู้สึกใจฟูและมีความสุข”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.