Open Mind : ‘พิมลรัตน์ พิศลยบุตร’ มีความสุข และเห็นคุณค่าชีวิตในทุกวัน

0
63

หากพูดถึงนางเอกหน้าสวยเจ้าแม่หนังประวัติศาสตร์อย่าง “สุริโยไท” คงไม่มีใครไม่รู้จัก กบ- พิมลรัตน์ พิศลยบุตร ซึ่งในยุคนั้นเธอประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ก่อนเธอจะได้ห่างหายจากวงการไปแต่งงาน และหลังจากที่เลิกรากับสามี วันนี้เธอกลับมาอีกครั้งในฐานะ Influencer ด้าน Beauty ที่มียอดฟอลฯ หลักแสน โดยหลังจากนี้เธอวางแผนจะกลับมาทำงานในวงการ และจะทำธุรกิจส่วนตัว เธอบอกกับเราว่า จะวันที่ประสบความสำเร็จ พ่ายแพ้ สุข หรือทุกข์ ก็ปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามธรรมชาติ มีความสุขกับเรื่องเล็กๆ อย่าทนอยู่ และมองเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเองในทุกๆ วัน


“ตอนนี้ก็กลับมารับงานอีเวนต์บ้าง แต่หลักๆ จะเป็น Influencer ด้าน Beauty ก็ทำช่วงโควิด เพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรทำกัน เลยนั่งแต่งหน้าไลฟ์สดบน IG ปรากฏว่าฟีดแบ็กดี มีเพื่อนๆ แฟนคลับรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่เข้ามาดูกันเยอะ บางคนที่ไม่รู้จักว่าเราเป็นใครก็เข้ามาติดตาม ซึ่งตอนนี้ก็มีช่องทางทั้งใน IG, TikTok และ YouTube แต่หลักๆ จะเป็น IG มากกว่า แรกๆ ก็ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ช่วงนั้นจะเดินทางบ่อยเพราะช่วยอดีตสามีทำธุรกิจ ก็ทิ้งๆ ไป พอหายไปก็จะมีคนเข้ามากระตุ้นเพราะเสียดายคอนเทนต์ พอกลับมาโสดก็เลยมุ่งเน้นทำงานตรงนี้เป็นหลัก”

“ส่วนงานในวงการบันเทิงก็ค่อยๆ กลับมา ก็จะรับงานรายการมากกว่า อย่างไปเป็นแขกรับเชิญในรายการร้องข้ามกำแพง เอาจริงๆ ก็ตื่นเต้นมาก มีลืมบทบ้าง เพราะเราห่างหายจากตรงนี้ไปนาน แต่พอได้เจอพี่ๆ น้องๆ ก็รู้สึกสดชื่นดี งานในวงการบันเทิงจริงๆ เป็นสิ่งที่รัก แต่ก็เคยมีช่วงที่ตัวเองเบื่อแล้วก็ออกไปทำงานเป็น Personal Shopper ของซูเปอร์แบรนด์แบรนด์หนึ่ง จากนั้นก็ลองไปเป็น Producer ให้กับรายการหนึ่งของช่อง 3 อยากทำอะไรก็ไปลองทำ โชคดีที่ได้ผู้ใหญ่ให้โอกาส พอแต่งงานก็ไปช่วยอดีตสามีทำธุรกิจซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ถนัด เป็นธุรกิจเกี่ยวกับสารเคมี ก็ดูแลด้าน Marketing ทำ Production เดินทาง เช็กงาน ชีวิตตอนแต่งงานก็จะเป็นแบบนั้น”

“ที่ผ่านมาก็มีคนมาชวนเล่นหนัง เล่นละครอยู่เรื่อยๆ แต่ช่วงนั้นไม่ได้มีบทที่ทำให้เราว้าวสักเท่าไร คิดว่าถ้าจะกลับไปเล่นก็อยากเล่นบทที่เราไม่เคยเล่น เชื่อว่านักแสดงส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้หมด บางคนรับบทแบบเดิมๆ ก็จะกลายเป็นภาพจำของคนดู ทำให้ได้งานซ้ำๆ อย่างกบคนจะชวนเล่นหนัง เล่นละครย้อนยุค ใส่ชุดไทย เพราะเป็นภาพจำของเรา บางทีก็อยากหนีจากตรงนั้น การได้เล่นบทเดิมๆ ทำให้เราไม่ได้พัฒนาฝีมือการแสดง ก็เลยเป็นเหตุผลว่า อยากเลือกทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน อย่างบทร้ายก็เคยเล่นนะ แต่ในมิติของละครไม่ค่อยชอบ ชอบมิติที่ร้ายแบบคนปกติของหนัง แต่ละครคนดูจะชอบคนที่ร้ายแบบกรี๊ดกร๊าด เรื่องราวส่วนใหญ่ก็จะตบตีแย่งผู้ชาย รู้สึกไม่สร้างสรรค์ แต่ถ้าหนังเขาจะสร้างตัวละครที่มีที่มาที่ไป มนุษย์คือสีเทา มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี อยู่ที่เราจะแสดงออกมาอย่างไร เราร้ายก็ไม่จำเป็นต้องแสดงให้คนรู้ว่าเราร้าย พอเล่นละครเราต้องทำหน้าตาแบบนี้ ใช้น้ำเสียงแบบนี้ เวลาเล่นแบบรู้สึกอึดอัดและปวดหัวมาก แต่ต้องยอมรับว่าคนที่เล่นบทแบบนั้นได้เก่งมาก เพราะมันใช้พลังงานเยอะมากจริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับงานแสดง เพราะรอบทที่อยากเล่น อยากให้ผู้กำกับสักคนอยากเห็นเราในมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่คาดคิดว่าเราจะเป็น ปีนี้ก็จะเห็นกบกลับมาเล่นหนัง เล่นละครอีกครั้ง แต่คงไม่ได้ยึดเป็นงานหลักเหมือนเมื่อก่อน”

“ตอนนี้กบมองว่างาน Influencer เป็นงานที่สนุก ก็เลยอยากทำเป็นหลัก เรื่องของความสวยความงามก็ยังเป็นเนื้อหาที่มีคนสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิว ผม วิธีการแต่งหน้า การเลือกเครื่องสำอาง เป็นเรื่องที่มีกว้างมาก ทำให้สนุกกับการครีเอตคอนเทนต์ ที่สำคัญคือเป็นสิ่งที่เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ ส่วนงานแสดงก็เป็นงานที่ไม่ใช่เรา แต่เป็นเราที่สร้างบทบาทขึ้น ก็ชอบในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งนอกเหนือจากงาน Influencer กับงานในวงการแล้ว ในส่วนของการทำธุรกิจตอนนี้ก็มองๆ ไว้อยู่เหมือนกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่อยากทำก็คงหนีไม่พ้นพวก Beauty Fashion หรือ Life Style เพราะชอบด้านนี้”

“ถ้าถามกบถึงเรื่องวิธีรับมือกับปัญหา หรือเรื่องราวแย่ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่า ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ แต่ต้องยอมรับ ต้องยอมรับความจริง อย่าหลอกตัวเอง โลกไม่ได้เป็นไปตามที่เราออกแบบไว้หรอก เราก็ไม่รู้ว่าวันนี้หรือวันข้างหน้าจะต้องเจออะไร ชีวิตอาจจะเก่งในเรื่องที่ผิดพลาด ทำให้เรารับมือกับสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องใหม่ๆ เข้ามาก็รับมือกับมัน มองทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติก็เท่านั้นเอง ความสุขของกบวันนี้คือเป็นเรื่องเรียบง่ายมาก ตื่นเช้ามาแล้วเจอกับสิ่งที่ทำให้เรายิ้มได้ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ความสุขมีอยู่รอบๆ ตัวเรา ขึ้นอยู่กับเราว่าจะมองมันอย่างไร ขับรถฟังเพลงที่เราชอบก็มีสุข ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับสุนัขที่เรารัก ได้ทำงานที่เรารัก ได้นำเสนองานศิลปะจากการแต่งหน้าของเราก็มีความสุข ความสุขของกบไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ชีวิตกบไม่ได้มีเป้าหมายว่าต้องทำให้ได้แบบนั้นแบบนี้ มีเงินเท่านี้ ทำแบบนี้ถึงจะมีความสุข ชีวิตไม่มีเวเวลอะไร แค่ทำทุกวันให้มีความสุข กบอาจโชคดีที่ได้เห็นเร็วกว่าเด็กวัยเดียวกัน ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่เด็ก ได้รู้ว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอน มีขึ้นมีลง และรู้ว่าชีวิตไม่มีอะไรที่แน่นอน ชีวิตคนเราก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด”


“สำหรับมุมมองความรักก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ กับความรักที่ผ่านมา ตอนนี้แผลสดก็อาจจะรู้สึกกลัวการเริ่มต้นใหม่ แต่คิดว่าไม่กลัวถ้าจะมีรักครั้งใหม่ ซึ่งก็ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ เราไม่รู้เลยว่าในอนาคตจะเจอใคร แต่ตอนนี้ก็จะตั้งเป้าหมายให้ชัดว่าอยากเจอคนแบบไหน จะขอพรพระว่าให้เจอคนดีๆ คนจริงใจ เจอเพื่อนดีๆ เจอมิตรภาพดีๆ คนทำงาน คู่ชีวิตที่ดีๆ เพราะไม่อยากเสียเวลา ถ้าเจอคนไม่ดีก็ขอให้ออกไปจากชีวิตเร็วๆ จะได้ไม่เสียเวลาชีวิต ส่วนตัวเป็นคนชอบหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า จุดเปลี่ยนที่ทำให้ชอบด้านธรรมะเพราะเคยมีเรื่องให้เฟลตอนวัยรุ่น ความรักบ้าง งานบ้าง คนรอบตัวบ้าง ยิ่งตอนคุณพ่อป่วยก็รับมือไม่ได้ เพราะพ่อเป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนั้นไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจก็เลยสวดมนต์ ก็รู้สึกสงบขึ้น กบเชื่อในกฎของแรงดึงดูด พอทัศนคติเราดี คิดดี คนดีๆ ก็จะเข้ามา”


“ชีวิตวันนี้ก็ปล่อยให้เป็นไปเรื่อยๆ แต่ก็วางแผนการทำธุรกิจ วางแผนการเงิน ดูแลตัวเอง ดูแลน้องหมาและครอบครัวให้ดี วางแผนการทำงานให้ดี งานที่ทำก็ยังไม่มีอะไรมั่นคง แต่เรายังต้องดำรงชีวิตอยู่ อาจมีอุปสรรคบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่เอาใจไปยึดกับมัน ไม่เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานของคนอื่น ไม่เสียเวลากับเรื่องราวที่ไม่ดี ถ้ารู้สึกเอ๊ะกับอะไรก็ให้ปล่อยไป จะได้ไม่เสียใจนาน ถ้าจะให้บอกคนอื่นว่าต้องรับมือกับปัญหาอย่างไร ก็คงสอนใครไม่ได้ (หัวเราะ) ถ้าเจอเรื่องแย่ๆ แต่จำเป็นต้องอยู่ อืม…(ทำท่าคิด) ก็เป็นเรื่องที่ขมขื่นดีนะ แต่เชื่อว่าคนเรามีหลายปัจจัยถ้ายังต้องอยู่กับสิ่งเหล่านั้น บางคนสละออกได้ บางคนก็ทำไม่ได้ แต่เชื่อว่าถ้าอะไรที่เราต้องทนแบบสุดๆ แล้ว ทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว สุดท้ายเราจะออกจากตรงนั้นมาได้เอง โดยไม่มีใครมาบอก ขึ้นอยู่กับว่าเราพร้อมที่จะออกมาหรือเปล่า แค่ยอมรับความจริง และอย่าหลอกตัวเอง อย่าทนอยู่ ให้เคารพตัวเอง เชื่อในทุกการตัดสินใจ คิดเสมอว่าเรามีคุณค่า สุดท้ายเราจะออกมาได้ เชื่อเถอะว่าเมื่อออกมาแล้วเราจะเจอสิ่งที่ดีกว่า”


Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.