Open Mild : ‘อิงฟ้า วราหะ’ รู้จักใช้ชีวิต และเติบโตอย่างมั่นคง

0
42

ฟ้า หรือ อิงฟ้า วราหะ MISS GRAND THAILAND 2022 หลังจากที่เธอโลดแล่นในวงการบันเทิงมากว่า 5 ปี เราจะเห็นอิงฟ้าเป็นทุกอย่างให้ทุกคนแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะร้องเพลง เดินแบบ ไลฟ์สดขายของ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ เล่นซีรีส์ และกับความสำเร็จครั้งล่าสุดใน “วิมานหนาม” ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ วันนี้อิงฟ้ากลับมาพร้อมกับซีรีส์เรื่องใหม่ “หยดฝนกลิ่นสนิม” กับคาแรกเตอร์ ‘สารวัตรตุลย์’ ตำรวจสาวสวยไฟแรงสุดเท่ เก่ง ดุดัน และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายเธออยู่ไม่น้อย เธอบอกกับเราว่า เป้าหมายชีวิตของเธอในวันนี้คืออยากใช้ชีวิตให้เบาลง แต่ก็ยังโฟกัสที่เรื่อง “เงิน” เป็นหลัก เพราะชีวิตเคยผ่านความยากลำบากมาก่อน วันนี้แค่มีงานให้ทำ ได้ทำงานที่ชอบ บาลานซ์ชีวิตให้ดีขึ้น ชีวิตก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้น


“ถ้าพูดถึงวิมานหนามก็ต้องบอกว่าดีใจและภูมิใจกับความสำเร็จที่ได้รับ เห็นบทครั้งแรกก็ชอบมาก มันเป็นหนังที่สะท้อนเรื่องราวของสังคมในมุมมองใหม่ๆ พอเห็นเป็นค่ายจีดีเอชก็ไม่คิดเยอะ เพราะเชื่อมั่นในฝีมือและคุณภาพ ได้เล่นกับเจฟ (ซาเตอร์) ด้วยก็รู้สึกว่าต้องลงตัว หนังที่ออกมาสมกับที่เราตั้งใจจริงๆ ตอนนี้งานแสดงก็ถือว่าเป็นงานอีกแขนงหนึ่งที่ชอบ อย่างซีรีส์เรื่องล่าสุด ‘หยดฝนกลิ่นสนิม’ กับช่องวัน31 ก็ได้พลิกบทบาทจากเดิม เพราะไม่เคยแสดงเป็นตำรวจมาก่อน ก่อนหน้านี้ก็ได้รับบทเป็นกุหลาบใน ‘บางกอกคณิกา’ พอเรื่องนี้มาเป็นตำรวจก็ต้องปรับบุคลิก ตัวละครจะมีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ ยิงปืน เดินวิ่งก็ต้องทะมัดทะแมง ดูเท่ๆ ซึ่งคาแรกเตอร์ของสารวัตรตุลย์ก็มีบางส่วนที่คล้ายตัวเอง เลยหยิบเอาชีวิตตัวเองตอนอยู่ในกองมิสแกรนด์มาใช้ คือต้องมีความเป็นผู้นำสูง กล้าหาญ เป็นตัวของตัวเอง มีความเป็นธรรมชาติ ไม่มีจริตประดิดประดอย รักความยุติธรรม และมีความรับผิดชอบสูง”


“สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าทำการบ้านอยู่พอสมควร ไปเวิร์กช็อปเดือนหนึ่ง ซีรีส์เรื่องนี้จะเสียดสีสังคมและตีแผ่วงการตำรวจทั้งด้านดีและไม่ดี เป็นผู้หญิงก็จะถูกดูถูกว่าอ่อนแอ ซึ่งสารวัตรตุลย์ก็พยายามแสดงให้เห็นว่าเรื่องเพศไม่มีผลต่อการทำงาน เรื่องราวหลายอย่างในแวดวงตำรวจก็ถูกหยิบขึ้นมานำเสนอ กดดันพอสมควรว่าตำรวจที่เราเป็นต้องเล่นอย่างไรให้คนลืมความเป็นนางงาม ความเป็นกุหลาบ หรือความเป็นโหม๋ เล่นให้คนดูเชื่อว่าเราคือสารวัตรตุลย์ ก็ถือว่าท้าทายตัวเอง แต่การเป็นสารวัตรตุลย์ทำให้ฟ้านิ่งมากขึ้น เดี๋ยวนี้เดินก็ไม่ทิ้งสะโพก แต่งตัวง่ายๆ หลังปิดกล้องซีรีส์ก็ยังติดใส่สูท รู้สึกว่ามันเท่ แล้วก็มีความสบายอยู่ในนั้น ก็ติดคาแรกเตอร์สารวัตรตุยล์อยู่บ้าง”


“ถ้าถามถึงชีวิตในตอนนี้ก็ต้องบอกว่าใช้ชีวิตได้คุ้มค่ามากๆ ค่ะ เพราะมันมีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด ทั้งเรื่องทำงาน เรื่องส่วนตัว คิวแน่นเกือบทุกวัน ก็ต้องยอมรับว่ายังบาลานซ์ชีวิตยังไม่ค่อยดีเท่าไร ทำให้การพักผ่อนไม่ค่อยดีตามไปด้วย ก็พยายามจะบาลานซ์ชีวิตให้ดีขึ้น ตอนนี้ชีวิตอาจจะอยู่ในขั้นตอนของการเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่าง สิ่งสำคัญคือต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ รู้จักการวางตัว รู้จักปล่อยวาง และต้องจัดการกับระบบความคิดตัวเองให้ดีขึ้น งานที่ผ่านมาก็ค่อนข้างเครียด เพราะได้เล่นหนัง เล่นซีรีส์ที่บทยากๆ อย่างเล่นวิมานหนามรู้สึกกดดันมาก กลัวจะเป็นตัวถ่วง กลัวเล่นแล้วอารมณ์ไม่ถึงหรือไม่มา ใช้เวลาทำอารมณ์ แต่อยากเล่นให้รู้สึกจริงๆ ไม่ใช่แค่การแสดง คนรอบข้างคอยให้กำลังใจ ก็เลยกดดันตัวเองน้อยลง”

“ถ้าถามว่าอะไรคือความสุขของอิงฟ้า…ก็อยากมีเวลาเล่นกับ ‘เกี๊ยว’ (น้องหมาของฟ้า) มากขึ้น ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เลี้ยงเขาไว้ที่ห้อง มีทุกอย่างให้ เมื่อก่อนจะติดกันมาก แต่เดี๋ยวนี้งานเยอะกลับบ้านดึก ก็จะเห็นเกี๊ยวซึม นอยด์ เดี๋ยวนี้มีแอดมินเลี้ยงให้ แบ่งกันว่าคนไหนพาไปเดิน พาไปเรียนว่ายน้ำ พาไปเที่ยวคาเฟ่ ไม่อยากให้เขาเครียด ถ้าฟ้ามีวันหยุดจะไปเที่ยวก็ต้องหาที่ที่พาสุนัขไปได้ หรือถ้าไม่สะดวกก็อยู่ห้อง นอนดูหนังกับเกี๊ยว เล่นกับเขาก่อนนอน อีกหนึ่งความสุขคือได้คุยกับเพื่อนๆ ถึงยุ่งก็ต้องหาโอกาสเจอกันบ้าง คุยกันบ้าง ก็สลับเวลากันตามความสะดวกของแต่ละคน คุยกันเรื่องงาน เรื่องการใช้ชีวิต ความรัก เจอคนแย่ๆ เครียดๆ ก็ปรึกษาปัญหากัน บางทีก็นัดสังสรรค์กันที่ห้อง เพื่อนจะบอกเสมอว่า บางทีเธอต้องเห็นแก่ตัวบ้างนะ ต้องสู้คนบ้างนะ คนรอบข้างจะรู้ว่าฟ้าเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ชอบเก็บทุกอย่างไว้ในใจ พอเก็บมากๆ ก็กลายเป็นเก็บทุกอย่างมากดดันตัวเอง ไม่ค่อยปกติเวลาอยู่คนเดียว (หัวเราะ) เพื่อนจะให้เล่าว่าเจออะไรมา จะโพสต์ระบายอะไรให้ส่งให้อ่านก่อน เซฟไว้แล้วคิดว่าจะโพสต์ไหม หลังจากนั้น 5 นาทีก็ไม่โพสต์แล้ว”


“ส่วนความสุขกับการทำงานก็คือมีงานให้ทำ เป้าหมายชีวิตก็คือ ‘เงิน’ ค่ะ เรารู้ว่าเราทำงานเพื่ออะไร ชีวิตเรามีค่าใช้จ่าย เราก็มีกำลังใจในการทำงานขึ้น สิ่งที่ทำให้ความสุขดับเบิลขึ้นไปคือได้ทำงานที่เราชอบ ชีวิตเราเคยลำบากมาก่อน อดีตทำให้เราเรียนรู้และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ถ้าเป็นเรื่องเงินเราเป็นคนขี้เหนียวมาก รู้สึกว่ากว่าเงินจะมาก็ต้องใช้ความพยายาม ซึ่งเป้าหมายชีวิตในอนาคตก็อยากใช้ชีวิตให้เบาลง เบาลงคือไม่หักโหมทำงานทุกวัน เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาฟ้าทำงานทุกวันจริงๆ ใจมันสู้ แต่กายเรามันจะไม่ไหว บางทีตาล้ามาก เดินนิดเดียวก็เหนื่อย สเต็ปต่อไปคืออยากให้ตัวเองได้ผ่อนคลายขึ้นบ้าง ไม่อยากกดดันตัวเองว่าจะต้องมีเงินเยอะกว่านี้ หรือมีชื่อเสียงมากกว่านี้ รู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตก็คอมพลีตแล้ว เพราะเรารันมาทุกวงการ เราตั้งใจทำงาน ทุกอย่างออกมาดี แฟนๆ ก็ภูมิใจที่เขาได้ซัปพอร์ตเราให้ประสบความสำเร็จได้ ที่ผ่านมาไม่มีเวลาพูดคุยกับแฟนๆ เยอะเหมือนเมื่อก่อน ยืนห่างกันมากขึ้น เราก็ใช้สื่อโซเชียลที่มีทำคอนเทนต์ตลกๆ อย่างน้อยเขาเข้ามาดูก็จะได้หัวเราะ และตั้งคำถามว่าพี่ฟ้าเป็นอะไร (หัวเราะ) ฟ้าก็รู้สึกว่าความรักระหว่างเรากับแฟนคลับคอมพลีตแล้ว เชื่อว่าตอนนี้แฟนๆ เขาแค่อยากเห็นเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ฟ้าอยากบอกว่ารักพวกเขามากๆ ก็อยากให้แฟนคลับดูแลสุขภาพตัวเอง เครียดให้น้อยลง เวลาเจอกันก็จะได้แฮปปี้กันทุกคนค่ะ”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.