อีกหนึ่ง CEO หญิงมากความสามารถ คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต นอกจากงานที่ไทยสมุทรฯ แล้ว เธอยังดำเนินธุรกิจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของโรงเรียนนานาชาติ 2 แห่ง เป็นเจ้าของโรงแรม ท่าจอดเรือยอชต์ และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่ง นอกจากงานที่รับผิดชอบแล้ว ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมประกันชีวิตไทยอีกด้วย เธอบอกกับเราว่า แม้จะทำงานมากแค่ไหน แต่เธอไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เพราะทุกอย่างบนโลกไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกคนก็ควรต้องก้าวให้ทันเทคโนโลยี ทันโลก และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รู้จักรักตัวเอง และรู้จักแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับผู้คนและสังคม
“นอกจากงานที่ไทยสมุทรประกันชีวิตแล้ว ปัจจุบันดิฉันยังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโรงเรียน Brighton College Bangkok ซึ่งมี 2 สาขา ที่กรุงเทพกรีฑาและวิภาวดี มีโรงเรียนนานาชาติ St. Stephen’s International ที่เขาใหญ่ เป็นประธานคณะกรรมการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีในส่วนของท่าจอดเรือ Ocean Marina Yacht Club โรงแรมโอเชี่ยน มารีน่า ที่พัทยา มีโรงแรมเมอเวนพิค อัสสรา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน รวมทั้งยังพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่ง ในส่วนของธุรกิจด้านอสังหาฯ และโรงเรียนนานาชาติ เป็นธุรกิจเดิมที่ทำมากว่า 20 ปี ซึ่งต้องบอกว่า ทุกธุรกิจที่ทำต้องเกิดจากใจรักและอยากทำ เราต้องเปลี่ยน Mindset เมื่อก่อนคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับการทำงานด้านประกันชีวิต แต่พอได้ทำก็รู้สึกสนุกและเห็นคุณค่าของงานที่ทำ หัวใจสำคัญที่ทำงานได้ดีคือความตั้งใจและรักในงานที่เราทำ ทำอย่างไรเราจะปรับวิธีคิดให้มีความสุขกับการทำงานและต้องเรียนรู้ให้เร็ว และต้องเรียนรู้ให้เร็วขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะโลกเดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปเร็วมาก”
“ดิฉันรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่ไทยสมุทรฯ มา 15 ปี ช่วงแรกรู้สึกเหมือนเด็กอนุบาลในวงการประกันฯ เพราะถนัดธุรกิจอสังหาฯ ก็ต้องเรียนรู้ให้ลึกและกว้างกว่าเดิม ธุรกิจประกันชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นธุรกิจที่บริหารบนความเสี่ยงรอบด้าน ทุกอย่างตั้งอยู่บนสมมติฐาน บนสถิติ และสถิติในอดีตไม่ได้บอกสิ่งเป็นจริงในอนาคตได้ ทุกอย่างมีความผันผวน ยุ่งยากซับซ้อน และไม่มีความชัดเจน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือความท้าทายที่เราจะเอาชนะ เรามีพอร์ตการลงทุนขนาด 80,000 – 90,000 ล้านบาท ซึ่งเรามีสัญญาที่จะสร้างผลตอบแทนให้ลูกค้า พร้อมกับบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืน ฉะนั้นเราจะบริหารธุรกิจอย่างไรให้อยู่รอด ภายใต้กฎเกณฑ์ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันสูง การเข้ามาทำธุรกิจประกันชีวิตคือความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนทางการเงินในอนาคต และเป็นหลักประกันที่ดีให้กับผู้คน เราเป็นกระบอกเสียงที่บอกกับทุกคนว่า เราต้องรักตัวเองและรู้จักดูแลตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย มีความสุขกับการใช้ชีวิต มีเพื่อนฝูง รู้จักเข้าสังคมเพื่อช่วยให้ใจมีความสุข จิตใจดีก็ป่วยยาก อย่าคิดว่าอายุน้อยแล้วไม่ป่วย หลังสถานการณ์โควิด 19 การดูแลสุขภาพและทำประกันชีวิตถือเป็นเทรนด์ที่คนใส่ใจมากขึ้น เพราะการเข้าโรงพยาบาลแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ที่ผ่านมาทางบริษัทได้นำหมอมาให้ความรู้ทั้งบน Facebook, YouTube และช่องทางอื่นๆ เพื่อให้ผู้คนตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น”
“นอกจากนี้ บทบาทการเป็นผู้บริหารเดี๋ยวนี้ไม่ได้มีการแบ่งเพศ ตำแหน่งผู้นำองค์กร ผู้นำประเทศที่เป็นผู้หญิงก็เยอะมาก ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีความละเอียดลออ มีความยืดหยุ่น พนักงานที่ไทยสมุทรฯ สัดส่วนผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ก็เคยตั้งคำถามว่า ผู้ชายหายไปไหน ซึ่งจริงๆ เรารับคนมาทำงานตามความสามารถ มีความสามารถในการเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง ทำงานเป็นทีมได้ เรื่องเพศไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็สามารถทำงานกับเราได้ ที่นี่ใครแต่งงานจดทะเบียนสมรส จะเป็นชาย – หญิง หรือ LGBTQIA+ ก็จะได้รับสวัสดิการเงินช่วยเหลือมงคลสมรสเหมือนกัน
“ถ้าถามถึงสไตล์การทำงาน ดิฉันเป็นคนที่พูดตรงและมีความยืดหยุ่น เมื่อก่อนค่อนข้างเป็นเพอร์เฟกชันนิสต์ แต่พออายุมากขึ้นก็รู้ว่าทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อด้อย คนที่สมบูรณ์แบบ 100% ไม่มีจริง ฉะนั้นการหยิบข้อดีของแต่ละคนมาร่วมกันทำงานให้ดีที่สุด ก็คือการร่วมแรงร่วมใจให้ก้าวไปถึงเป้าหมายที่วางไว้นั่นคือความสำเร็จ ดิฉันไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด แต่สิ่งสำคัญของการเป็นผู้นำคือการมองไปยังอนาคต รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น ต้องรู้จักสังเกต เพื่อเตรียมองค์กร เตรียมพนักงานเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ถ้า AI มา เราต้องนำมาใช้ให้เหมาะสม ทุกวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก ผู้นำต้องมี Vision เราอย่ากลัว AI แต่ต้องคิดว่าจะเอา AI มาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน เราก็ต้องเตรียมบุคลากรให้พร้อม อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง เพราะโลกและเทคโนโลยีเร็วมาก พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยน เราต้องปรับให้ทัน ในฐานะผู้นำเราก็ต้องพยายามกระตุ้นให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญในการเรียนรู้ สร้างวิธีการเรียนรู้ เพราะโลกอนาคตคือโลกของการเรียนรู้ด้วยตัวเอง”
“สิ่งหนึ่งที่ได้จากการเรียนรู้และนำมาเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เกิดจากปฏิบัติธรรมวิปัสสนา หลังจากที่คุณแม่ (สุมาลี อัสสกุล) เสียก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมเพื่อให้คุณแม่มีความสุข ซึ่งก็เลือกไปที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ใช้เวลาในการฝึกประมาณ 10 วัน ทำให้รู้ว่า ศีล สมาธิ ปัญญาไม่พอ เราต้องวิปัสสนาด้วย เราโชคดีที่เลือกวิธีการปฏิบัติได้ถูกจริต หลังปฏิบัติก็ช่วยให้ใจเย็นขึ้น รู้จักตัวเองมากขึ้น และเข้าใจคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น การทำธุรกิจประกันชีวิตก็ถือเป็นธุรกิจที่ได้ช่วยเหลือผู้คน ช่วยเหลือสังคม เราช่วยสอนผู้คนให้รู้จักวางแผนการออมเงิน สอนให้คนรักสุขภาพ ซึ่งเราทำ CSR เรื่องเหล่านี้เยอะมาก สุดท้ายเราต้องตั้งอยู่บนความไว้วางใจ บริหารเงินลูกค้าให้เกิดผลตอบแทนตามที่สัญญาลูกค้าไว้ และส่งคืนเมื่อถึงกำหนด ธุรกิจจะต้องมี Governance และ Sustainability ซึ่งมีหลายมิติ ส่วนการทำกิจกรรมเพื่อสังคมนั้น เราส่งเสริมหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งการแยกขยะ ลดการใช้น้ำและไฟฟ้าในองค์กร ลดการเดินทางด้วยการประชุมออนไลน์ ลดการใช้กระดาษ ติดตั้งโซลาร์เซลล์ตามสาขาต่างๆ เพื่อลดใช้ไฟฟ้าจากฟอสซิล มีกิจกรรม CSR ไปปลูกป่า ปลูกต้นไม้ บริจาคเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาล บริจาคโลหิตปีละ 6 ล้าน CC และปีนี้ตั้งเป้าที่ 10 ล้าน CC เราช่วยเหลือสังคมหลายๆ ด้านมาตลอด และต้องเชื่อว่าสิ่งที่เราทำจะสร้าง Impact ให้กับสังคม”
“ดิฉันพูดตรง มีความยืดหยุ่น เมื่อก่อนเป็นเพอร์เฟกชันนิสต์ แต่ก็รู้ว่าทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อด้อย คนที่สมบูรณ์แบบ 100% ไม่มีจริง การหยิบข้อดีของแต่ละคนร่วมแรงร่วมใจให้ก้าวไปถึงเป้าหมายนั่นคือความสำเร็จ”
