สมาคมศัลยกรรมแพทย์ปลูกผมแห่งเอเชีย ชี้ไทยมีศักยภาพขึ้นแท่นฮับศัลยกรรมปลูกผม หนุนเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก

0
209
_cuva

สมาคมศัลยกรรมแพทย์ปลูกผมแห่งเอเชีย (AAHRS) จัดประชุมเวทีใหญ่ รวมตัวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 คนทั่วโลก แบ่งปันงานวิจัยและเทคนิคการปลูกผมที่ล้ำสมัย ตอกย้ำศักยภาพของไทยในฐานะ ศูนย์กลางศัลยกรรมปลูกผมระดับโลก ด้วยทีมแพทย์ฝีมือดีมีมาตรฐานสากล ราคาที่เข้าถึงได้ และบริการที่เป็นเลิศ ซึ่งสอดรับกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่า ผู้ชายกว่า 85% และผู้หญิง 33% ทั่วโลกต้องเผชิญปัญหาผมร่วง ในชีวิต และตลาด Medical Tourism มีมูลค่าสูงถึง 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เผยไทยเองก็ติด 1 ใน 5 ประเทศผู้นำด้าน Medical Hub ของโลก

แพทย์หญิงกนกวรรณ จันทอุปฬี ประธาน Live Surgery workshop งานประชุมวิชาการของสมาคมศัลยกรรมแพทย์ปลูกผมแห่งเอเชีย (AAHRS) ครั้งที่ 9 เปิดเผยว่า งานประชุมวิชาการของสมาคมศัลยกรรมฟื้นฟูเส้นผมแห่งเอเชีย ครั้งที่ 9 ภายใต้ สมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ International Society of Hair Restoration Surgery (ISHIRS) เป็นสมาคมทางการแพทย์ระดับ โลกที่ไม่แสวงหากำไรและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ ด้านการรักษาและฟื้นฟูผมร่วงจากทุกสาเหตุ โดยมีสมาชิกมากกว่า 1,000 ราย ใน 70 ประเทศทั่วโลก เพื่อเป็นเวที แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ ทั่วเอเชีย รวมถึงการเปิดตัวนวัตกรรมและเทคนิคใหม่ ในการปลูกผมและฟื้นฟูเส้นผม สามารถสร้างเครือข่ายระดับภูมิภาค และส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมการประชุมจากทั่วโลกกว่า 200 คน และยังช่วยสร้างเม็ดเงินท่องเที่ยว และเปิดประตูท่องเที่ยวให้กับหมอและบุคลากรแพทย์ปลูกผมจากทั่วโลกอีกด้วย ปัจจุบันในสายตาของคนทั่วโลกประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงฮับด้านการท่องเที่ยวโลก แต่ยังเป็นจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สำคัญอีกด้วย

ทั้งนี้จุดประสงค์ของสมาคม AAHRS มีจุดมุ่งหมาย ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมการศึกษาต่อเนื่องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมฟื้นฟูเส้นผมในเอเชีย ร่วมกับเน้นการพัฒนามาตรฐานการดูแลผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด รวมถึงการจัดการภาวะแทรกซ้อน และสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น อาทิ นวัตกรรมการฉีดสเต็มเซลล์กระตุ้นเส้นผมให้งอกขึ้นใหม่ การใช้เลเซอร์กระตุ้นเส้นผมในกรณีที่ยังไม่มีความจำเป็นในการปลูกผม และใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เป็นเครื่องมือช่วยให้แพทย์สามารถปลูกผลให้ละเอียดรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดีประเทศไทยมีศักยภาพก้าวเป็นศูนย์กลางการแพทย์และการปลูกผมระดับโลก สะท้อนให้เห็นจากการที่ AAHRS เลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งสำคัญนี้ ศักยภาพอันโดดเด่นของประเทศ ในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ระดับโลก คือ มีโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน ทั้งเทคโนโลยีการสื่อสาร โรงแรมมาตรฐานสากล และที่สำคัญคือมีแพทย์ด้านศัลยกรรมปลูกผมฝีมือดี มีมาตรฐานสากล ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผมร่วงศีรษะล้านจากทั่วโลก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นผลักดันไทยสู่การเป็น Medical Hub

ปัจจุบันมูลค่าตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั่วโลก ตลาด Wellness Tourism ทั่วโลกมีมูลค่าสูงกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 และคาดว่าจะเติบโต มากกว่า 2ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ด้านตลาด Medical Tourism มีมูลค่าราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034 สะท้อนให้โอกาสของประเทศไทยซึ่งมีจุดแข็ง 5 ด้าน

1. ราคาเข้าถึงได้ค่ารักษาพยาบาลและการปลูกผมในไทยถูกกว่าประเทศตะวันตกอย่างมาก ประหยัดได้ถึง 50-80%

2. คุณภาพการรักษาพยาบาล ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล มีแพทย์และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญสูง สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี

3. ความหลากหลายของบริการ ครอบคลุมทั้งการรักษาโรคซับซ้อน ศัลยกรรมความงาม ฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงการแพทย์แผนไทย

4. แหล่งท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนและฟื้นฟูไปพร้อมกัน

5. นโยบายภาครัฐ รัฐบาลไทยสนับสนุนให้ประเทศเป็น Medical Hub อย่างจริงจัง ด้วยการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า

ทั้งนี้เทรนด์ทั่วโลกกับการแก้ปัญหาผมร่วง ปัจจุบันปัญหาผมร่วงและศีรษะล้านเป็นภาวะที่สร้างความกังวลให้ผู้คนทั่วโลก ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยประมาณ 85% ของผู้ชายและ 33% ของผู้หญิง จะประสบปัญหาผมร่วงในช่วงชีวิตหนึ่ง ประกอบกับปัจจุบันผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจกับภาพลักษณ์สมบูรณ์แบบ การแก้ไขปัญหาผมร่วงเพื่อความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีถูกให้ความสำคัญเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการปลูกผมที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ลดความเจ็บปวด และการเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้น ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาผมร่วงศีรษะล้านอย่างจริงจัง ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ ประเทศไทยจึงมีศักยภาพสูงอย่างยิ่งที่จะดึงดูดผู้ที่ต้องการเข้ารับบริการปลูกผมจากทั่วโลก ตอกย้ำบทบาทผู้นำในตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์อย่างต่อเนื่องในอนาคต

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.