นักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย “คุณหนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล” กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท บิวตี้ เจมส์ ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งอาณาจักรธุรกิจหมื่นล้าน กว่า 30 ปีที่คุณหนึ่งก้าวเข้ามาช่วยครอบครัวบริหารธุรกิจ ค่อยๆ เรียนรู้และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างมั่นคงและแข็งแรง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ มากมาย ทำให้เขาเข้าใจและเริ่มให้ความสำคัญกับการบริหารองค์กร การบริการ การพัฒนาคน การพัฒนาช่างฝีมือ และในเรื่องดีไซน์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด รวมทั้งการหาตลาดและสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยบุคลิกที่เป็นคนกระตือรือร้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นคุณหนึ่งไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองและองค์กร จนทำให้แบรนด์ Beauty Gems กลายเป็นแบรนด์จิวเวลรีที่มีคุณภาพระดับโลก จนครองใจกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ สร้างแรงงาน และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อย่างภาคภูมิ
“กว่า 60 ปีที่ครอบครัวผมอยู่ในแวดวงธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ เราเริ่มธุรกิจตั้งแต่สมัยคุณปู่ คุณย่า จากนั้นคุณพ่อและคุณลุงได้เข้ามาสานต่อ และส่งไม้ต่อให้ผมกับพี่ชาย ผมเริ่มต้นทำงานกับ Beauty Gems มาตั้งแต่อายุ 21 ปี ตอนนั้นผมกับพี่ชายมองว่า เราอยากขยายการส่งออกเครื่องประดับไปยังตลาดต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่คุณพ่อมีตลาดหลักแค่ญี่ปุ่นที่มียอดส่งออกรวมราวๆ 90% ผมมองว่าตลาดในสหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง และประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพ เราก็เริ่มรุกตลาดต่างประเทศอย่างเข้มข้น จนทำให้สัดส่วนรายได้การส่งออกหลักกลายเป็นสหรัฐอเมริกา 45% ญี่ปุ่น 25% เอเชียและตะวันออกกลาง 20% มีลูกค้าในประเทศอีก 10% และมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี”
“ผมเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น ชอบพัฒนาตัวเอง และชอบทำงาน การเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ที่เข้ามาช่วยครอบครัวสานต่อธุรกิจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากกว่าเป็นการกดดัน เพราะการที่คุณปู่ คุณพ่อ และคุณลุงสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ถือว่าเป็นโชคดีที่ลูกๆ ได้เข้ามาทำธุรกิจที่มีผลกำไร มีชื่อเสียงอยู่แล้ว จากวันแรกจนถึงวันนี้ Beauty Gems อยู่ในตลาดมาแล้ว 60 ปี วันที่ผมเข้า handle ก็ต้องพัฒนา ต่อยอด และผลักดันธุรกิจของเราให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยชื่อเสียง ศักยภาพของช่างฝีมือ และพันธมิตรทางการค้าที่เรามี ถือว่าเป็นโชคดีที่เราเข้ามารับผิดชอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ใครๆ ก็ยอมรับ Beauty Gems ว่าเป็นแบรนด์สินค้าคนไทยที่มีมาตรฐานระดับโลก ทำให้ทุกวันนี้เรายังมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น เราพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เลือกใช้อัญมณีคุณภาพดี มีทีมช่างออกแบบที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า รวมทั้งไม่หยุดพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกใช้ Innovation ใหม่ๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและระบบหลังบ้านให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ผมมองว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์เราเป็นที่ยอมรับ และทุกคนในครอบครัว Beauty Gems ยึดถือมาโดยตลอดก็คือ การทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ ทำงานที่ได้มาตรฐาน และใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ซึ่งนี่เป็นหัวใจของ Beauty Gems ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นทำธุรกิจ”
“ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าธุรกิจจิวเวลรีและอัญมณีมีการแข่งขันสูง แต่ยอดขายในปีที่ผ่านมาโดยรวมก็ถือว่ามีการเติบโตขึ้น ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปีนี้ก็มองว่าน่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา เพราะธุรกิจส่งออก และธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติแล้ว ในขณะที่กลุ่มลูกค้าของเราที่เป็น OEM (Original Equipment Manufacturer) ก็เติบโตมากขึ้น โดยยอดขาย การส่งออก และรับจ้างผลิตของประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวมราวๆ 5 แสนล้านบาท ซึ่งผมมองว่าในปีนี้ธุรกิจอัญมณีจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน เราเองก็ยังรุกตลาดทั้งในยุโรป อาเซียน ตะวันออกกลาง และอเมริกา ซึ่งเราจะเน้นดีไซน์ให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งลูกค้าในประเทศแถบยุโรปและญี่ปุ่นจะชอบเครื่องประดับดีไซน์เรียบๆ ในขณะที่ประเทศในตะวันออกกลางก็จะชอบงานเครื่องประดับเป็นเซต เน้นความหรูหรา อลังการ ผมมั่นใจว่าธุรกิจของ Beauty Gems จะเติบโตตามตลาดอย่างแน่นอน”
“การสร้างแบรนด์ Beauty Gems และออกคอลเลกชันเป็นการสร้างรายได้ให้กับเรามากขึ้น ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของไทย ต้องยอมรับว่าตลาดส่งออกหลักของไทยยังคงเป็น OEM ด้วยฝีมือของช่าง และคุณภาพทำให้รายได้ส่งออกมีมูลค่ามหาศาล สิ่งสำคัญคือ Beauty Gems จะให้ความสำคัญกับเรื่องบุคลากร เราพยายามสร้างบุคลากรและช่างฝีมือ เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ และสร้างเม็ดเงินจากการส่งออกเข้าสู่ประเทศ เราให้ความสำคัญกับเรื่องบุคลากรมาโดยตลอด ซึ่งผมมองว่าความสำเร็จของผมในวันนี้ ไม่ได้เกิดจากความกล้าที่จะลงมือทำ หรือความตั้งใจทำงานของผมเท่านั้น แต่ผมมีทีมงานที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว มีพันธมิตรที่ดี มีลูกค้าและสื่อให้การสนับสนุน ซึ่งมีหลายคนบอกกับผมว่า รู้จัก ‘Beauty Gems’ ก็เพราะรู้จัก ‘หนึ่ง-สุริยน’ ก็ถือว่าเป็นเกียรติ และเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจ รวมทั้งยังเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้ผมไม่ยอมหยุดนิ่ง และก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้ Beauty Gems เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ความสำเร็จของผม ส่วนหนึ่งมาจากการได้พนักงานที่ดี ได้พันธมิตรที่ดี และที่สำคัญผมไม่เคยหยุดนิ่ง ทำงานด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่น และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ผมก็ศึกษา และพัฒนาจนทำให้วันนี้เรากลายเป็นแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำของประเทศ และได้การยอมรับในระดับโลก ซึ่งเราก็จะพยายามพัฒนาให้สินค้าเรามีความหลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น”
