เรียกได้ว่าเป็นห้างค้าทองใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ และยังคงยึดมั่นต่อคำสัญญาที่มีให้กับลูกค้ามาอย่างยาวนาน แม้เวลาจะผ่านมาเกือบ 5 ทศวรรษ แต่ AURORA (ห้างเพชรทองออโรร่า) ก็ยังปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าต่อไป
อนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม หรือ “กอล์ฟ” ทายาทรุ่นที่ 3 ของห้างเพชรทองออโรร่า ย้ำอย่างหนักแน่น ว่าห้างเพชรทองของเขายังคงให้ความใส่ใจกับลูกค้าอยู่เสมอ ด้วยคีย์เวิร์ดสำคัญอย่าง Customer Centric หรือการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง “นับตั้งแต่แรกเริ่มที่คุณพ่อเข้ามาจับธุรกิจร้านทอง ก็เห็นว่าลูกค้าที่มาซื้อทองจะมีเหตุผลในการซื้อที่แตกต่างกันไป บ้างก็ซื้อให้ลูกหลาน หรือซื้อให้คนรัก บ้างก็ซื้อเก็บไว้เองเพื่อการเก็งกำไร สะท้อนให้เห็นถึง Emotional ในการซื้อของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทำให้คุณพ่อใส่ใจและให้ความสำคัญต่อความต้องการของลูกค้าค่อนข้างมาก ซึ่งถึงวันนี้ผมเองก็ยังคงยึดแนวคิดแบบเดียวกับคุณพ่อมาตลอดเหมือนกัน”
จากร้านทองที่เป็นตึกแถวเพียง 1 -2 คูหา วันนี้แบรนด์ที่เป็น First-mover อย่างออโรร่า ได้เติบโตและขยายไปแล้วมากกว่า 255 สาขาทั่วประเทศ “ห้างทองของเราถือเป็นห้างทองร้านแรกๆ ที่บุกเบิกการเข้าไปตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยมีหน้าตาที่แตกต่างไปจากร้านทองทั่วไป ซึ่งออโรร่าของเรามีหน้าร้านที่โมเดิร์นและทันสมัย เหมาะกับคนยุคใหม่ รวมถึงเรายังขยายโลเคชันไปอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ไม่เพียงแค่นั้นเรายังพัฒนาตัวเองให้เข้าไปอยู่ใน E-commerce และล่าสุดได้เข้าสู่ Metaverse แล้วด้วย ถือเป็นการยกระดับร้านทองให้ครอบคลุมต่อความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่หลากหลายกลุ่มในวันนี้”
คุณกอล์ฟบอกด้วยว่า นอกจากการขยายฐานลูกค้าออกไปสู่กลุ่มต่างๆ มากขึ้นแล้ว การปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเลือกซื้อทองในวาระและเทศกาล ยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญ “จากการศึกษาลูกค้า ทำให้เราเห็นว่าคนในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญในเรื่องของเทศกาล โอกาส และวันพิเศษต่างๆ (Occasion) มากกว่าเดิม ทำให้ออโรร่าพยายามคิดและผลิตสินค้าออกมาให้เข้ากับโอกาสเหล่านั้นด้วย เช่น วันตรุษจีน วันสงกรานต์ วันปีใหม่ วันแม่ หรือวันพ่อ แม้กระทั่งวันเกิดของลูกค้า เราก็ได้พัฒนาโปรดักส์ให้เข้ากับความต้องการได้อย่างทันที จนอาจเรียกว่าเราใส่ใจ และเข้าใจแล้วว่าลูกค้ามีความต้องการสินค้าอะไรในช่วงเวลาใด” สิ่งเหล่านี้สามารถสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิด “ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า” ที่ห้างเพชรทองออโรร่ายึดมั่นมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มเปิดร้านทองเมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว
“ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า” คือสิ่งที่ออโรร่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
สำหรับทุกคนที่กำลังมองหาของขวัญสักชิ้นที่แทนความรู้สึกได้อย่างล้ำค่าที่สุด
“เราพยายามที่จะทำอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งจับต้องได้ อย่างลูกค้ามาซื้อทองที่ร้าน เราก็จะทำใบรับประกันทองให้ถึง 3 ใบ ครอบคลุมทั้งใบรับประกันคุณภาพทองแท้ การบริการหลังการขาย ล้าง ซ่อม ต่อ ฟรีตลอดอายุการใช้งาน และสุดท้ายคือใบรับประกันราคาขายคืนได้ราคาสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เกี่ยวพันไปถึงแนวคิดที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ”
ไปที่ห้างเพชรทองออโรร่า นอกจากจะได้เห็นทองคำสวยๆ ที่มีหลากหลายรูปแบบแล้ว ที่นี่ยังมี “เพชร” ที่คุณกอล์ฟยืนยันว่าเป็นเพชรที่ไม่ซ้ำใคร เพราะเพชรของที่นี่มาจากเหมืองของเดอเบียร์ส “ซึ่งเราสามารถการันตีได้เลยว่าเพชรของเราเป็นเพชรเดอเบียร์สที่ได้รับสิทธิ์ให้นำโลโก้ของออโรร่า อยู่คู่กับโลโก้แบรนด์เดอเบียร์สในใบรับประกันสินค้า นอกจากนี้ทางร้านออโรร่า ยังมีบริการที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็รวมถึงบริการจัดหาของขวัญตามที่ลูกค้าต้องการทั้งกรอบรูปทองคำ หรือแม้แต่การเช่าพระเครื่องชื่อดังในแต่ละจังหวัด ก่อนนำมาเลี่ยมกรอบพระทองคำ และส่งมอบให้ลูกค้า เรายังมีบริการที่เรียกว่า ทองมา เงินไป ซึ่งเป็นบริการขายฝากทองคำและเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบอีกด้วย”
วันนี้ตลาดค้าทองคำในประเทศ ที่แม้จะดูว่ามีร้านค้าทองรายใหญ่คุมส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มาสืบทอดธุรกิจกลับมองว่าตลาดทองในวันนี้ยังสามารถโตได้อีกมาก “ถึงวันนี้จะมีห้างค้าทองรายใหญ่อยู่ในตลาดเยอะ ซึ่งก็รวมถึงออโรร่าด้วยที่มีมากกว่า 255 สาขา แต่ในตลาดจริงๆ ก็ยังสามารถโตได้อีกมหาศาล และด้วยเราเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าทอง ก็ต้องมองหาแนวทางในการทำธุรกิจอย่างไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
ทายาทรุ่นที่ 3 ของห้างเพชรทองออโรร่า ในฐานะที่เป็นผู้นำในธุรกิจค้าทองคำอันดับต้น ๆ ของประเทศ ยังมั่นใจด้วยว่าแบรนด์ออโรร่า เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ทองคำที่มีมาตรฐานที่สุด “เพราะไม่ว่าจะไปซื้อทองของออโรร่าที่จังหวัดไหนในประเทศไทย หรือ สาขาไหนก็ตาม ของทุกชิ้น ทุกแบบ จะมีราคาเหมือนกันหมดทุกที่ เราจะมีป้ายบอกทุกชิ้น ซึ่งบางชิ้นอาจจะแพงหรือถูกกว่าคนอื่น แต่ขอรับประกันได้ว่าเราไม่เคยโกหกลูกค้า ไม่มีการสอดไส้ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเราคำนึงถึงความรู้สึกของลูกค้าทุกคน ที่อยากจะมอบของดีๆ ให้ใครสักคน เราสัญญา เราจะไม่ทรยศต่อความรู้สึกของลูกค้าเด็ดขาด เพราะเราอยากให้ลูกค้าเห็นว่าเราเป็นคนที่ซื่อตรง และเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความชัดเจนในการทำธุรกิจและจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เพราะเราคือหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าทองที่มีความมั่นคงที่สุดจริงๆ”