ธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์
บอสวิน อัศวินออนไลน์
พลิกฟื้นชีวิต จากติดลบหนัก สู่หลักร้อยล้าน
จากเด็กต่างจังหวัด ทุนชีวิตน้อย แถมเกเรไม่ใช่เล่น เขาใช้เงินที่บ้านจนหมดตัว เสียบ้านให้กับธนาคาร ล้มยิ่งกว่าล้ม เพราะยังไม่พบศักยภาพ และเป้าหมายข้างหน้า แต่แล้ววันนี้ พลิกฟื้นชีวิตจากติดลบหนัก สู่ตัวเลขแดนบวก500 ล้านในช่วงเวลาเพียง 3 ปี คุณคิดว่า ธวิณทร์ภัสภูพัฒนรินทร์ หรือ อัศวิน ออนไลน์ทำได้อย่างไรกัน…
ธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ ฉายาในวงการธุรกิจค้าขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ อัศวินออนไลน์ก้าวพ้นวิกฤตชีวิตครอบครัวและส่วนตัวด้วยจุดยืนและความท้าทายที่ทำตัวเอง และ THE ICON GROUP เดินมาจนถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย เพียงช่วงเวลาสามปี “จุดยืนของ THE ICON GROUP เรามีสโลแกนหรือปณิธานที่มุ่งมั่น ที่อยากจะส่งต่อความรู้ต่อผู้คนครับ The more you give, the more you get back. หรือ ยิ่งให้…ยิ่งได้รับ นี่คือปณิธานที่ตั้งแต่เราเริ่มก่อสร้างร่างบริษัทจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ครับ
“ด้วยกลยุทธ์ แนวทาง และขั้นตอนที่ทำให้ภาพแผนธุรกิจเกิดเป็นรูปธรรมคือ speed and system หรือ ความเร็วในการปรับตัวและระบบสื่อสารการเติบโตครับ ณ วันนี้ไม่ใช่ยุคของปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่เป็นยุคของปลาเร็วกินทุกปลา THE ICON GROUP เป็นบริษัทที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ถึงเราจะเป็นรุ่นน้องในธุรกิจของการขายของออนไลน์ เรานำเอาโมเดลของรุ่นพี่ หรือเขาเรียกว่าคนที่ค้าขายออนไลน์มาก่อนมาวิเคราะห์แล้วก็ประยุกต์และปรับตัว เมื่อเราก้าวเข้ามาอยู่ในตลาดในช่วงระยะเวลาเพียง 3 ปี เราจึงสามารถทะยานขึ้นมายืนหนึ่งบนตลาดการขายสินค้าออนไลน์ได้ครับ”
ไม่เพียงแค่น้ำเสียงฉะฉานชัดเจน แต่ความแม่นยำในข้อมูล และการลงมือปฏิบัติจริงมาตลอดการสร้างแบรนด์ ทำให้การถ่ายทอดปณิธานและกลยุทธ์องค์กรของคุณวินลื่นไหล และจุดติดไฟพลังการขับเคลื่อนธุรกิจตั้งแต่เริ่มคำถามแรกทีเดียว
“เพราะที่นี่ เราเชื่อว่าคนพัฒนาได้ สินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดคือทรัพยากรบุคคล เราจึงให้ความสำคัญกับการพันาและไม่หลงลืมที่จะรักษาคนให้เติบโตไป พร้อมกันกับเรา รวมถึง put the right man to the right job เราเสริมกำลังทัพกับเนื้องานที่เขาถนัดให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ชิ้นงาน และเนื้องานออกมาด้วยความรวดเร็ว เพราะ speed สำคัญมากๆ ถ้ายิ่งเราทำได้เร็วกว่าคนอื่น โอกาสที่เราจะสร้างกำไรบนโลกออนไลน์ก็มีมากกว่าคนอื่นเช่นเดียวกันครับ
“นับจากตอนนี้ THE ICON GROUP พัฒนาขยายสาขาโรงเรียน และสำนักงานของการขายสินค้าออนไลน์โดยไม่ต้องสต็อกของ เพื่อรองรับการเติบโตของตัวแทนที่เพิ่มมากขึ้น THE ICON GROUP เติบโตสวนกระแสในเวลาเพียง 3 ปี ยอดขายปีก่อนแตะที่ 5,000 ล้านบาท ไปเรียบร้อยครับ การลงทุนขยายสาขาและสำนักงาน มุ่งรองรับตัวแทนที่เพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมาทุกอย่างขยาย และมุ่งไปข้างหน้า มีแต่ผลเชิงบวก กำไรที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่บริษัท THE ICON GROUP ที่ได้ครับ แต่มันสามารถส่งต่อให้กับตัวแทนให้เขามีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นมากซึ่งเราสามารถแบ่งปันให้กับผู้คน เติบโตไปพร้อมๆ กันกับเราครับ”
เรียกว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร การศึกษาระดับไหน เพศ-วัยใด ก็ไร้อุปสรรคในการที่เข้าร่วมงานกับTHE ICON GROUP เพราะอัศวินออนไลน์ หรือ บอสวินคนนี้ มีลูกศิษย์ตั้งแต่อายุ 10 กว่าปี ไปจนถึงวัย 84 ขอแค่มีใจเรียนรู้ “ไม่ว่าอายุน้อยหรืออายุเยอะ มีความรู้หรือไม่มีความรู้ เป็นคนที่มีทักษะหรือไม่มีทักษะ ที่นี่เรามีตัวช่วยดีๆ ทั้งระบบที่จะส่งต่อให้กับผู้คน ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานเลยก็สามารถเรียนรู้ได้ เป็นคนอายุเยอะก็สามารถเรียนรู้ได้ไม่จำกัดเลย
สำหรับเครื่องมือสำคัญของการขายของออนไลน์กับ THE ICON GROUP คือระบบที่ drop shipping และ fulfillment คือศูนย์กลางการจัดการสินค้า สต็อก และการหยิบ แพ็ค ขนส่ง นั่นหมายความว่า ตัวแทนหรือผู้สนใจมีเพียงแค่มือถือเพียงเครื่องเดียว ก็สามารถขายของออนไลน์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านจริงๆ แบบออฟไลน์ “เพราะเรามีหน้าร้านให้กับคุณเรียบร้อยแล้วบนมือถือ คุณไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้า แพ็คสินค้า ส่งสินค้า เพราะว่าเรามีโกดังเก็บสินค้าให้คุณอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ ควบคุมอุณหภูมิ มีระบบหลังบ้านจัดการดูแลสต็อก อันที่สำคัญครับ คุณไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงใดใด เพียงแค่คุณยิ่งขยันขายมากคุณก็ได้กำไรมาก คุณขยันขายน้อยคุณก็ไม่มีความเสี่ยง ดังนั้นจุดแข็งของที่นี่เลยคือการที่เรามีระบบที่ดี เพื่อช่วยให้ตัวแทนหลายๆ คนปลดล็อกจากการขายของออนไลน์แบบเดิมๆ ครับ”
ตั้งแต่แนะนำตัวจนคุยส่วนภาคธุรกิจผ่านไป แต่ฉายาอัศวินออนไลน์ของคุณบอสวินนั้นได้แต่ใดมา “ฉายาอัศวินออนไลน์ของผมได้มาจากลูกศิษย์ครับ จากวันแรกถึงตอนนี้ผมสอนลูกศิษย์มา 200 กว่ารุ่นแล้วนะครับ รุ่นหนึ่งๆ ผมมีลูกศิษย์ประมาณ 1-3 พันคน นับคร่าวๆ แล้วเท่ากับว่าผมส่งต่อความรู้การขายออนไลน์ไปยังลูกศิษย์มาประมาณ 4-5 แสนคน และลูกศิษย์ที่มาเรียนกับผมเขาประสบความสำเร็จ มีกำไรเพิ่ม มีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นครับ เขาเหล่านั้นเลยกลับมาตั้งฉายาให้ผมว่า คนนี้แหละคืออัศวินออนไลน์ที่มาช่วยเขาให้ปลดล็อกชีวิตได้”
ก่อนที่บอสวินจะปลดล็อกคนอื่นได้ เขาพบความชอบของตัวเอง และพัฒนามันอย่างจริงจัง นำมาสู่ความเชี่ยวชาญและส่งต่อไปยังคนอื่นได้ “ผมก็เริ่มจากศูนย์มาครับ เราพัฒนาจากการลงมือทำจริงๆ ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนที่เพอร์เฟกต์ครับ แต่เราเก่งจากการที่เราลงมือทำได้ เก่งจากการที่เราทำมันบ่อยๆ ทำมันซ้ำๆ ครับ นำประสบการณ์ตรงของเรามาพัฒนาปรับปรุงและแก้ไข จนกลายมาเป็นผมในวันนี้ได้ครับ
“ถ้าให้มองตามมาตรฐานเราก็คือ เด็กน้อยหนึ่งคนที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดด้วยสังคมของต่างจังหวัด แต่แล้วพอเรียนจนจบมีโอกาส ขอคุณแม่ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ผมไปอยู่ที่อังกฤษมาได้ประมาณ 4 ปีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเลยคือ ผมหลงระเริงมากมันเหมือนกับว่าได้เปิดโลกใบใหม่ และกลายเป็นเด็กเสเพล เมามายทุกวัน ตลอด 4 ปี กว่า ผมใช้เงินที่บ้านเดือนละหลายแสน”
ถึงตรงนี้ บอสวินคิดถึงอดีตที่พลาดผิดของตัวเอง ก่อนจะเล่าถึงวันที่ต้องยอมรับ และอยู่ความเป็นจริง เพื่อคิดหาทางก้าวต่อไป “ใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นโดยไม่ทราบอะไรเลย จนสุดท้ายกลับมาที่บ้านได้มาพบเจอว่า บ้านของแม่กำลังจะถูกขายทอดตลาด ผมได้จดหมายจากกรมบังคับคดี วันนั้นเป็นวันที่มันเหมือนกับฟ้าผ่าฟาดลงมากลางชีวิต ไฟในใจก็ดับลงครับ ผมทำอะไรไม่ถูก มันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมผมไม่เคยรับรู้เรื่องราวนี้มาก่อน ผมกับคุณแม่ทะเลาะกันรุนแรงมาก จนแม่พูดขึ้นมาว่า“จะให้แม่ทำอย่างไร ต้องให้แม่ผูกคอตายไหม…” คำนี้มันเป็นคำที่จุดเปลี่ยนในชีวิตของผมเลย วันนั้นผมทำอะไรไม่ถูกครับ ผมได้แต่ร้องไห้ แล้วก็โผเข้าไปกอดคุณแม่ แล้วก็บอกแม่ว่า “แม่ วินขอโทษ วินขอโทษ วินขอโทษ” พูดได้คำเดียวเลยครับ แล้วเราก็นอนร้องไห้ กอดกันจนหลับไป
“ตื่นเช้ามาครับก็ยังไม่รู้จะทำอะไร มีโอกาสอะไรพยายามมองหา ไม่ได้มีต้นทุนที่จะไปเปิดร้านเพิ่ม ไม่ได้มีเงินที่จะไปลงทุนธุรกิจอะไรใหม่ๆ โชคดีมากๆ ครับที่ได้มาเจอกับบริษัท THE ICON GROUP ก็เลยเปิดโอกาสตัวเองเข้ามาเริ่มเรียนตั้งแต่วันนั้น ผมก็เลยเข้ามาขายของออนไลน์กับที่นี่ ใช้ระยะเวลาประมาณปีกว่า เริ่มหยิบจับเงินล้านในอากาศได้ เริ่มเห็นผลลัพธ์จากความพยายาม ขยันอดทน ทุ่มเท่ของตัวเอง
“วันแรกที่ผมได้หยิบเงินล้านในอากาศได้ หรือสร้างกำไรบนโลกออนไลน์ได้ ผมทำให้คุณแม่มีรอยยิ้ม ผมเอาเงินก้อนนี้ครับกลับไปซื้อทอง ซื้อแหวน ซื้อกำไลกลับไปซื้อคืนคุณแม่ ซึ่งแม่เคยเอาทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมดไปจำนำ และช่วยเหลือผมตอนที่ผมอยู่ที่ต่างประเทศตลอด 4 ปีนั้น”
สุดยอดความภูมิใจของการหารายได้คลี่คลายวิกฤติชีวิตได้ของบอสวิน มากไปกว่าเงิน คือการซื้อบ้านหลังนั้นมาคืนแม่ และรอยยิ้มที่มีค่าพร้อมความรักความเข้าใจต่อกัน คือกำไรสูงสุดที่ได้กลับมา “มันปลดล็อกในชีวิตของผมมากที่สุดเลย คือนำกำไรของเราทั้งหมดที่หาเองได้จากงานนี้ไปซื้อบ้านที่ขายทอดตลาดกลับมาคืนให้แม่ได้ เราเคยค้างคาใจอยู่ตอนนั้น และเราทำให้คุณแม่สำเร็จ ทุกวันนี้เห็นรอยยิ้มของคุณแม่ มันเป็นรอยยิ้มที่สว่างที่สุด มันเป็นรอยยิ้มที่เป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงในหัวใจ ที่ทำให้เรามีกำลังที่จะสู้ต่อ และเดินทางต่อไปครับ
“ผมรู้สึกว่าผมได้พลังงานบวกจากคนรอบข้างโดยเฉพาะคุณแม่ ท่านไม่เคยหมดความหวังในตัวลูกชายคนนี้ครับ ถึงเราจะไม่ได้เป็นคนเก่งกาจอะไร แต่คุณแม่พูดเสมอว่า “วินทำได้ วินสู้ๆ แม่เป็นกำลังใจให้” ทุกๆ ครั้งที่เจอปัญหา สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากคุณแม่คือกำลังใจ และกำลังใจนี่แหละครับ มันคือตัวที่ทำให้ผมมีพลังที่จะสู้ต่อไป ยอมรับว่าเหนื่อยครับ แต่พอได้รับกำลังใจจากคุณแม่ปุ๊บ มันหายเหนื่อยจริงๆ ครับ
ชีวิตคนเราไม่ได้มีแต่งาน คนที่ประสบความสำเร็จแต่ละคน มักมีช่วงเวลาผ่อนคลาย และชุบชูใจต่างๆ กันไปเช่นเดียวกันกับบอสวิน เขาก็มีเวลาชาร์จพลังไฟให้ตัวเอง “ผมชอบท่องเที่ยว ชอบช้อปปิ้ง ให้ความสุขกับตัวเอง และหนึ่งอย่างที่ผมจะต้องให้กับตัวเองในทุกๆ เดือนเลยคือ ให้ความสุขหรือให้รางวัลกับตัวเราเอง จะต้องหาเวลาไปท่องเที่ยวพักผ่อน หรือพาคุณแม่ไปพักผ่อนท่องเที่ยวในทุกๆ เดือนครับ นอกจากเป็นการให้รางวัล เติมกำลังใจ ให้ชีวิตแล้ว เหมือนเราได้ชาร์จแบตในแต่ละช่วงเดือน หลังจากลุยงาน และฝ่าอุปสรรค แบตเตอรี่เราเริ่มค่อยหมดลงเรื่อยๆ ใน 1 เดือน เราชาร์จแบตรอบหนึ่ง พอเราเต็ม เราก็สู้ใหม่ครับ”
ท้ายสุดคุณวิน ฝากให้ทุกคนมองผ่านทะลุทุกปัญหา และเดินหน้าอย่างภาคภูมิ “ผมเชื่อว่าทุกๆ คน ได้เจอวิกฤตที่ผ่านมาครับ ใช่, เราเจอปัญหาได้ครับ ถ้าเพียงเราไม่มองคำว่า “ปัญหา” คือ “ปัญหา” ปัญหาใหญ่มันก็จะเล็กครับ และปัญหาเล็กก็จะหายไป ผมมีอยู่ 3 คำ หากพบกับปัญหาคือ “เจอปัญหา แก้ไข ไปต่อ” ชีวิตจริงของเรามีอยู่แค่นี้แหละครับ ถ้าคุณสามารถเข้าใจ 3 คำ นี้ได้ คุณจะเดินต่อได้ในทุกๆ ก้าว ก็ แก้ไขมัน แล้วก็ไปต่อ เดี๋ยวคุณเดินต่อไปเรื่อย ๆ คุณก็จะเจอปัญหาอีก คุณก็แค่แก้ไขมัน แล้วคุณก็เดินต่อ ทำอย่างนี้สม่ำเสมอ ย้ำ ๆ คุณถึงเส้นชัยได้เช่นเดียวกัน”
