วันที่ 18 ก.พ.2564 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตามที่นิตยสาร CEOWORLD จัดอันดับประเทศยอดเยี่ยมในโลกที่มีอิทธิพลด้านมรดกทางวัฒนธรรมในปีค.ศ.2021 โดยอันดับ 1 คือ อิตาลี รองลงมากรีซ สเปน อินเดียและประเทศไทยอยู่ในอันดับ 5
โดยนิตยสาร CEOWORLD ซึ่งเป็นนิตยสารด้านธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติได้วิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูล 9 ด้าน ได้แก่ สถาปัตยกรรม มรดกงานศิลป์ แฟชั่น อาหาร ดนตรี วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและการเข้าถึงทางวัฒนธรรมจาก 165 ประเทศ ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศไทยและแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นด้านมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทยทั้งการมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เป็นมรดกโลก ได้แก่ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย และเมืองบริวาร รวมทั้งมีประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นอันงดงามของแต่ละภูมิภาคล้วนเป็นสิ่งที่จูงใจให้ชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย
ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม จะดำเนินการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ “BCG” หรือ Bio-Circular-Green Economy เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและภารกิจของวธ.ในเรื่องการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ดนตรี ศิลปะ หัตถกรรม สื่อ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นและทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์บนฐานวัฒนธรรม รวมทั้งส่งเสริมเทศกาล ประเพณี ตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม ชุมชนท่องเที่ยวและกิจกรรมทางวัฒนธรรมในทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งการดำเนินการใช้หลักการบวร(บ้าน วัด โรงเรียน/หน่วยงานราชการ)เป็นพลังขับเคลื่อนโดยนำหลักธรรมทางศาสนา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามมาใช้การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของชุมชน
นอกจากนี้ จะจัดทำระบบศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้านวัฒนธรรม (M-Culture Big Data) เพื่อเผยแพร่ความรู้และความหลากหลายทางวัฒนธรรมไปสู่ประชาชนจะได้นำความรู้เหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในการต่อยอดพัฒนาสินค้าและบริการของชุมชนที่เกี่ยวข้องด้านวัฒนธรรมทำให้ประชาชนและชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมและการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ขอบคุณ ที่มา : กระทรวงวัฒนธรรม