อาจเรียกได้ว่า เป็น “ซีอีโอ” ต้นแบบ ผู้สร้างชื่อเสียงให้กับองค์กรระดับประเทศ ที่ชื่อ “เมืองไทยประกันชีวิต” มาอย่างยาวนาน จนยากที่จะปฏิเสธได้ว่า ผู้ชายที่ชื่อ “ป้อง-สาระ ล่ำซำ” คือผู้นำที่มีความ “ทรงอิทธิพล” ต่อทุกแนวคิด การทำงานที่เกิดขึ้นภายในองค์กรแห่งนี้
กว่า 17 ปี กับการดำรงตำแหน่ง “กรรมการผู้จัดการ” และอีก 11 ปี จนถึงปัจจุบันกับการก้าวขึ้นมานั่งตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” (ซีอีโอ) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) “สาระ ล่ำซำ” ผู้ชายมาดเท่ในทุกมุมมองคนนี้จะเคยผ่านความท้าทาย และวิกฤตด้านเศรษฐกิจมาแล้วหลายครั้ง หลายครา “ในยุคของผม ผ่านความท้าทายมาแล้วหลายรอบ ในปี 2540 เราเจอกับวิกฤตต้มยำกุ้ง ต่อมาปี 2551 เจอกับ แฮมเบอร์เกอร์ ไครซิส หรือวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ ทั้งในอเมริกา และยุโรป รวมถึง วิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว”
“ผมว่า ในมุมหนึ่งของการทำธุรกิจประกันชีวิต ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี ในยุคเริ่มแรกของผม อาจเป็นยุคที่มีการแข่งขันกันรุนแรง แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเท่ากับวันนี้ เราพยายามสร้างความแตกต่าง พยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กร ให้มีความรู้สึกว่าอยู่ในความเป็นจริงของชีวิต มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น ทำหลากหลายช่องทาง เราช่วยกันทั้งทีม แต่จะเรียกว่า ประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ก็อยากจะบอกว่า เรามาถึงจุดที่เป็นบริษัทประกันชีวิตขนาดใหญ่มากทีเดียว พร้อมๆ กับมีความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาให้เราได้ทำ ได้แก้ไขกันอย่างไม่มีวันหยุดจริงๆ”
ซีอีโอหนุ่มแห่งเมืองไทยประกันชีวิต บอกกับทีมงาน HOWE ว่า หลักการทำงานจริงๆ ของเขา คือการทำงานโดยไม่ตั้งอยู่ในความประมาท “ขณะเดียวกัน เราก็ต้องคอยพัฒนาการทำงานของเราตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกของเราวันนี้ มีหลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เราจึงต้องมีวิธีคิดนอกกรอบ ที่เป็นไปในเชิงนวัตกรรม โดยยึดหลักการที่ทำให้เกิดขึ้นจริงได้”
“ผมว่า หลักการ ทิศทาง และความชัดเจน เป็นสิ่งสำคัญมาก ส่วนเป้าหมาย และวิธีการจะเป็นอย่างไร เสร็จแลว เราต้องสื่อสาร ในแบบที่เรียกว่า การเชื่อมต่อแบบบูรณาการต่อไป พอทำได้แล้ว ก็ต้องมาวัดผลกัน ถึงสิ่งที่ทำออกมาว่า ไปถึงไหนแล้ว จากนั้น ก็ต้องมาเปิดใจกัน เอากลับมาปรับแต่ง แก้ไขในช่องโหว่ แล้วจึงเอากลับเข้าไปใหม่ ลองทำดู ซึ่งเราเองทำแบบนี้มายาวนาน เพียงแต่ว่าพอถึงวันนี้ ทุกอย่างเร็วมาก เราก็ขมวดทุกอย่างให้เร็วขึ้น แล้วปรับแต่ง ก่อนดูว่ามีช่องโหว่ตรงไหน แต่ที่สำคัญคือ ต้องทำให้คนของเรา เห็นภาพทั้งหมดไปในทิศทางเดียวกัน แล้วก็มีโครงสร้างที่เขาสามารถปฏิบัติได้จริง ขณะที่คนที่เป็นตัวหลัก ก็ต้องมาดูว่า สิ่งที่ทำมานั้น ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องกล้าที่จะตบโต๊ะ กล้าตัดสินใจว่า อันนี้ไม่ใช่ แล้วก็เปลี่ยน”
ในเรื่องของบุคลากรในองค์กร ซีอีโอหนุ่ม ยอมรับว่า เป็นคนที่มีส่วนช่วยสำคัญในการผลักดันองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า “ความตั้งใจ และเป้าหมาย ถือเปนส่วนหนึ่งในการทำงาน ส่วนวิธีการผมมองว่า ในหลักการโลกใหม่อย่างทุกวันนี้ เราเปิดใจให้กับกลุ่มคนเจนเนอเรชั่นใหม่เข้ามามีส่วนในกรทำงาน บางครั้ง เราเองก็ไม่ได้เป็นผู้สอน หรือ โค้ช อย่างเดียว แต่เราก็ต้องให้เขามาเป็นโค้ชเราด้วย อย่างเวลาที่ผมลงไปในตลาดที่เป็นกลุ่ม Gen Y หรือ Gen Z เราก็ต้องใช้คนกลุ่มนี้ มาเป็นพื้นฐานในการสร้างความเข้าใจ ฉะนั้น หลักการทำงานของเรา คือ ต้องทำให้มีความเรียบง่ายมากที่สุด เพื่อให้คนกล้าพูด กล้าทำ และแสดงความคิดเห็น
“ถ้าความคิดเหล่านั้น ใช่ เราก็พร้อมที่จะลงมือทำด้วย แล้วแน่นอน ก็ต้องเผื่อใจด้วยว่า ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นมา เราก็ต้องรับได้ อันนี้ ก็เป็นวิธีการที่วันนี้ เราพยายามดึงคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ให้เขามีเวที มีการลงมือทำจริงๆ แล้วก็ได้ผลลัพธ์ที่คืนกลับไปสู่ตัวเขาเองด้วย ซึ่งเป็นอีกการเชื่อมต่อแบบบูรณาการที่เราเน้นมาตลอด”
ด้านนวัตกรรม ก็เรียกว่า เป็นส่วนสำคัญขององค์กรแห่งนี้ ซึ่งคุณสาระ เน้นย้ำว่า ธุรกิจประกัน ก็เหมือนกับอีกหลายๆ ธุรกิจ ที่ต้องการนวัตกรรม เข้ามาขับเคลื่อนการทำงาน “เรื่องดาต้า หรือ ข้อมูล ถือเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจประกัน เรารู้มาตลอดว่า ธุรกิจประกัน ไม่ใช่สิ่งที่คนจะมองหาตั้งแต่ต้น ดังนั้น เวลาคิด เราก็จะคิดจากข้างในออกมา แต่พอโลกเปลี่ยนไป เราก็ต้องมาคิดจากข้างนอก แบบ Outside in”
ทว่า ในการคิดจากข้างนอก ต้องมีฐานข้อมูลรองรับ “จากนั้น ก็เป็นเรื่องของเนื้อหา ที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ การทำอะไรก็ตาม จุดประสงค์ด้านหนึ่ง คือ เทคโนโลยีใหม่ ที่ต้องเอามาใช้ร่วมกับคน ส่วนในมุมของนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการบริการต่างๆ ภายใต้พื้นฐานข้อมูลที่ทำออกมา แล้วคิดจากมุมข้างนอก ตอนจบถ้าเราตอบโจทย์ได้ อาจจะมีความแตกต่าง แต่ต้องขอย้ำว่า อาจแตกต่างในวันนี้ แต่พรุ่งนี้อาจไม่แตกต่าง เพราะในหลักการจริงๆ เราไม่มีวันที่หยุดทำงานได้ในวันนี้ และไม่มีวันที่จะทำให้สมบูรณ์ได้”
“ในความเป็นจริง ผมไม่มีนิยามในเรื่องของการทำงาน แต่ผมจะทำตามความเป็นจริง ในหลักการที่เป็นทีมเวิร์ก จะมาพูดให้ได้ภาพสวยอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีโครงสร้างการทำงานให้เป็นทีม นอกเสียจากว่า ตั้งเป้าหมาย และวิธีการแล้ว โครงการจะเป็นตัวเชื่อมต่อ และวัดผล แล้วปรับแต่ง ก่อนวัดผลอีกรอบ แล้วนำมาปฏิบัติใหม่ ซึ่งก็จะทำหมุนกันไปแบบนี้ ไปเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นหลักการทำงานเป็นทีมเวิร์ค ที่แท้จริง” แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่คุณสาระ ล่ำซำ เน้นย้ำอีกคือ การรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน โดยต้องยอมรับว่า ไม่มีใครเก่งกว่ากัน ในโลกความเป็นจริง
ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำงานเท่านั้นที่ ซีอีโอ หนุ่มคนนี้ให้ความสำคัญ เรื่องของการสร้างความสมดุลในการทำงาน และการใช้ชีวิต รวมถึง ครอบครัว ก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับตัวของเขาด้วยเช่นกัน “สมัยก่อน ผมจะทำงาน โดยเอาชีวิตส่วนตัว ครอบครัว มาอยู่ด้วยกัน ในเรื่องของครอบครัว อาจจะยากสักนิดหนึ่ง แต่ในเรื่องส่วนตัวแล้ว สำหรับผมจะเป็นเรื่องความสนุกสนาน ผมชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งผมก็จะใช้สิ่งนี้ ไปบูรณาการกับทีมงานโดยเฉพาะ ฝ่ายขาย”
ทว่า พอมาวันนี้ เมื่อต้องเจอกับโควิด-19 นอกจากการต้องทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปให้ได้แล้ว “เราเองก็ต้องพยายามบูรณาการทุกอย่างให้ได้ อย่างการทำงาน เราเองก็ต้องสามารถทำงานในสถานที่ต่างๆ ได้ แต่ต้องไม่เข้าไปอยูในพื้นที่สุ่มเสี่ยง พร้อมๆ กับต้องดูแลสุขภาพ และจิตใจด้วย”
“เช่นเดียวกับครอบครัว ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับคนรุ่นผมนี้ ยอมรับครับว่า เป็นเรื่องสำคัญ เพราะคำว่า ครอบครัว เป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญ ที่เราจะใช้บ่มเพาะคนรุ่นต่อไป ส่วนจะปฏิบัติอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเรา แต่ทั้งนี้ การสร้างสมดุลให้กับชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว ผมมองว่า หากเราเข้าใจในเชิงลึก จะเห็นว่า มีคุณค่า ที่ไม่ใช่แค่ตัวของเราคนเดียว แต่ยังทำให้ครอบครัว และสังคมของเรา ดีขึ้นอีกด้วย”
ส่วนในประเด็นความหมายของคำว่า “ผู้ทรงอิทธิพล” (Influencer) นั้น ซีอีโอ แห่งเมืองไทยประกันชีวิต ตอกย้ำในหลักการ และมุมมอง คือบุคคลที่เป็นตัวอย่างที่ดี “ในความเป็นจริง เวลาที่มีใครมองใครก็ตามให้เป็น บุคคลตัวอย่าง ผมมองว่าก็เป็นสิ่งที่ดี การทำงานในเรื่องอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งดี ไม่ว่า จะเป็นการดูแลครอบครัวตัวเองให้ดี หรือ ดูแลตัวเอง ให้มีศักยภาพในการทำงานให้ดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ซีอีโอ เมืองไทยประกันชีวิต บอกด้วยว่า การจะเป็นผู้ทรงอิทธิพล (Influencer) ที่ดีนั้น “อย่างมองแต่ในมุมของธุรกิจ หรือการค้าอย่างเดียว หรือแม้แต่การมองว่า จะต้องเป็นเรื่องราวของข่าว ซึ่งนั่น ไม่เกี่ยวกันเลย อยู่ที่ว่า หากเราต้องการทำเพื่อสังคม ก็ให้ทำไป ถ้าคิดว่าตัวเองทำได้ แบ่งปันได้ ซึ่งทั้งหมด ถือเป็นเรื่องที่ดี และถือเป็นการทำให้สังคมของเราดีขึ้นอย่างแท้จริง”
ช่วงท้ายของการพูดคุย คุณสาระ ล่ำซำ ซีอีโอแห่งเมืองไทยประกันชีวิตได้เน้นย้ำ ถึงความสุขที่แท้จริง ของการใช้ชีวิต ด้วยว่า ความสุขที่แท้จริง คือการรู้จักตัวของเราเอง “รู้ว่า เราสุข หรือ เราทุกข์ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรที่แน่นอนทุกอย่าง ไม่ใช่เรื่องที่มีเงิน หรือ มีทอง หรือ การที่ธุรกิจเติบโต แต่จริงๆ เราต้องตอบตัวของเราเองให้ได้ว่า ความพอใจของเราอยู่ตรงไหน แล้วเรารูสึกอิ่มอย่างไร รู้สึกสุขอย่างไร ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ ทุกคนรู้ว่า ความสุขจริงๆ ของแต่ละคน คืออะไร ถ้าพวกเขาค้นหาสิ่งนั้นเจอ” คุณสาระ ล่ำซำ ซีอีโอ แห่งเมืองไทยประกันชีวิต ทิ้งท้ายได้อย่างน่าประทับใจ