วันที่ 29 มกราคม 2564 เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) บูรณาการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)จัดการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ถั่งเช่ารายหนึ่ง ที่มีดารา นักร้อง เป็นพรีเซนเตอร์อวดอ้างสรรพคุณรักษาโรคทางสื่อต่างๆท าให้ประชาชนเสียโอกาสในการรักษาโรค อย่างถูกต้องนั้นในส่วนของอย.ได้ตรวจสอบสื่อโฆษณาดังกล่าวพบการโฆษณาที่ฝ่าฝืนพ.ร.บ.อาหารพ.ศ.2522ดังนี้
- การโฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า ผสม มัลติวิตามิน บี (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดถั่งเช่า ผสม ยูซี-ทู (เครื่องหมายการค้า ลีฟเนส) ทางเว็บไซต์บริษัทผู้ผลิต ด้วยข้อความ เช่น “…สรรพคุณของถั่งเช่าต่อร่างกาย ลดระดับน้ำตาลในเลือด เสริมสมรรถภาพทางเพศ…ฟื้นฟูระบบการทำงานของไต…ไตวายเรื้อรัง…รักษามะเร็งปอด… ภูมิแพ้…ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้แพร่กระจาย กำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส…”
- การโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดถั่งเช่า ผสม ยูซี-ทู (เครื่องหมายการค้า ลีฟเนส) ทางช่องโทรทัศน์ที่ กสทช. ตรวจพบ ออกอากาศในลักษณะรายการสัมภาษณ์ มีแขกรับเชิญที่เป็นพรีเซ็นเตอร์มาเล่าประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ว่า ทำให้สดชื่น หลับเต็มอิ่ม หายจากอาการปวดข้อเข่า กลับมานั่งพับเพียบได้ แนะนำให้ผู้สูงอายุที่มีโรคข้อเข่ารับประทาน และสัมภาษณ์ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีโรคประจำตัว เช่น นอนหลับไม่สนิท ปวดตามข้อ เมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์แล้วอาการที่เป็นอยู่ดีขึ้น”
โดยโฆษณาทั้ง 2 ช่องทาง เป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตและโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพ หรือสรรพคุณอันเป็นเท็จหลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควรมีบทลงโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่ง อย. ได้สั่งระงับการโฆษณา พร้อมดำเนินมาตรการทางปกครองกับบริษัทผู้ผลิตอาหาร ผู้ทำการโฆษณารวมถึงพรีเซนเตอร์ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และมีหนังสือถึงตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ในส่วนของ กสทช. อย. ได้รับการประสานจาก พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. ว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ มีมติลงโทษปรับทางปกครองต่อสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 2 ช่อง กรณีโฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าโอ้อวด หลอกลวง เกินจริง รายละ 5 แสนบาท และตรวจสอบพบสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมอีก 1 ช่อง ที่จะเข้าสู่การพิจารณาลงโทษปรับ 5 แสนบาท เช่นกัน
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมกว่า 10 ราย และสถานีวิทยุอีกกว่า 150 ราย ที่ได้รับคำสั่งเตือนให้ระงับการโฆษณาไปแล้ว กสทช. จะเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด หากตรวจพบว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็จะถูกลงโทษปรับอีก แม้จะเปลี่ยนไปโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น หากเข้าลักษณะโอ้อวด หลอกลวง เกินจริง ก็ถือได้ว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีสิทธิ์ถูกพิจารณาลงโทษปรับได้ และขอเตือนไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายกล่องดาวเทียมต่าง ๆ ด้วยว่า หากช่องรายการที่อยู่ในโครงข่ายนั้นมีความผิด ทางโครงข่ายจะต้องรับโทษไปด้วย ซึ่งมีตั้งแต่การเตือนและโทษปรับแบบเดียวกับช่องรายการ เพื่อมิให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมต่อไป
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าที่ อย. อนุญาตมี 2 กลุ่ม ได้แก่ ยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีถั่งเช่าเป็นส่วนประกอบ สรรพคุณเพื่อบำรุงร่างกายเท่านั้น ดังนั้น การโฆษณาในลักษณะข้างต้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าอย่าคาดหวังว่าจะช่วยรักษาโรคได้ นอกจากจะเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจเสียโอกาสในการรักษาโรคอย่างถูกวิธีอีกด้วย หากพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์โอ้อวดเกินจริง หรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภค สามารถแจ้งร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. 1556
ขอบคุณ ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา