“King’s Bangkok” แชร์ประสบการณ์ 10 เคล็ดลับการเรียนออนไลน์ด้วยมาตรฐานระดับโลก ด้วยคณะครูคุณภาพที่มุ่งมั่นให้เด็กมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และดูแลสุขภาวะของครอบครัว ร่วมเป็นส่วนหนึ่งช่วยยกระดับการศึกษาไทยในระดับสากล
โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ (King’s College International School Bangkok) เผยแนวทางและผลตอบรับที่ดีจากการเรียนรู้แบบ Learning From Home ที่เน้นย้ำแนวคิด “Inquisitive Mind คือการมีจิตใจใฝ่รู้ตลอดเวลา” ให้การเรียนรู้ของเด็กจะไม่หยุดในช่วงโควิด-19 ถึงแม้โรงเรียนจะปิดตามประกาศภาครัฐ ด้วยองค์ประกอบสำคัญ คือ คุณภาพของครูทุกคนที่มีหัวใจอันยิ่งใหญ่ที่มีเป้าหมายในการทำให้ลูกศิษย์มีการเรียนรู้และพัฒนาการต่อเนื่องอย่างมีความสุขที่สุด ร่วมกับการเอาใจใส่เข้าอกเข้าใจข้อกังวลต่างๆ ของผู้ปกครอง ผสานกับการนำเอาองค์ความรู้ในการใช้ World-class Online Learning Platform ที่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ในมาตรฐานเดียวกันที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติมาแล้ว โดยผลตอบรับดีเกินคาด โดยทั้งผู้ปกครอง ครู และนักเรียนรู้สึกมีความสุขกับการเรียนออนไลน์
พร้อมทั้งมุ่งมั่นต่อยอดความสำเร็จของการเปิดการเรียนการสอน โดย 99.4% ของผู้ปกครองให้คะแนนคุณภาพการเรียนการสอนที่คิงส์คอลเลจกรุงเทพอยู่ในระดับดีถึงดีเยี่ยม และทั้ง 100% ตอบว่าเห็นพัฒนาการของลูกและสัมผัสได้ถึงความสุขที่ลูกมาโรงเรียน
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. สาคร สุขศรีวงศ์ ประธานบริหารโรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ กล่าวว่า “King’s Bangkok มีการทำงานใกล้ชิดกับ King’s Wimbledon โรงเรียนแม่มาโดยตลอด และครั้งนี้เราโชคดีที่ยังได้ทำงานใกล้ชิดกับแคมปัสอีกสองแห่งในจีนเพื่อแชร์องค์ความรู้ในการใช้ World-class Online Learning Platform ที่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ในมาตรฐานเดียวกันที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติมาแล้ว อย่างไรก็ตาม การจะทำการเรียนออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จนั้น นอกจากจะต้องมีเป้าหมายและองค์ความรู้ที่ดีแล้ว King’s Bangkok ยังมีครูคุณภาพสูงที่มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม ทั้งนี้ โรงเรียนมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้คิงส์คอลเลจกรุงเทพเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุดในเอเชีย และร่วมแบ่งปันความรู้พร้อมประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนแก่สังคมเพื่อยกระดับการศึกษาไทย”
“การจัดการเรียนออนไลน์ในครั้งนี้ ครูของเราทุกคนวัดความสำเร็จและมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือ ความสุขและสนุกของทั้งนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ทั้งสามฝ่ายจะต้องทำงานเป็นทีมเดียวกัน เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมากคือ ต้องการให้นักเรียนของเรามี Inquisitive Mind คือการมีจิตใจใฝ่รู้ตลอดเวลา ดังนั้นพัฒนาการของพวกเขาต้องไม่สะดุด เราไม่ต้องการให้ COVID-19 มาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ หรือทำให้พวกเขาเรียนรู้สิ่งที่ควรจะได้เรียนรู้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น” ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. สาคร กล่าว
มร. ธอมัส บานยาร์ด ครูใหญ่โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ กล่าวว่า “การจัด Online Learning ครั้งนี้ ตั้งอยู่บนกระบวนการทำความเข้าใจไม่เพียงเด็กแต่ยังรวมถึงพ่อแม่ด้วย โดยพยายามอำนวยความสะดวกให้ครอบครัวมากที่สุด อาทิ การจัดหาอุปกรณ์ ICT ที่จำเป็นและวัสดุอุปกรณ์อื่นเพื่อลดภาระของผู้ปกครอง เรามีความเข้าอกเข้าใจถึงข้อกังวลต่างๆ ของผู้ปกครอง บางครอบครัวมีลูกหลายคน และหากจะต้องดูแลลูกทุกคนในการเรียนออนไลน์ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น เราจึงตัดสินใจช่วยกันลดภาระผู้ปกครองในระดับชั้นที่เราเชื่อว่า คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดสรรเวลาในการส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ก่อนกลับมาเรียนให้พัฒนาการของเด็กไม่สะดุด ทางโรงเรียนจึงได้ตัดสินใจให้นักเรียนชั้น Pre-nursery และ Nursery สามารถขอหยุดเรียนได้โดยไม่ต้องเสียค่าเทอมในช่วงที่หยุดไป ส่วนในกลุ่มที่เรียนออนไลน์นั้น เรามุ่งมั่นที่จะต่อยอดการเรียนการสอนที่เราได้ปูพื้นฐานไว้อย่างดี ซึ่งทั้งทีมคุณครูตลอดจนผู้บริหารและพนักงานของเรา มีเป้าหมายเดียวกันในการทำให้เด็กๆ ได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งอย่างมีความสุข ตามปรัชญา ‘A Great Heart Takes You Further’ ตามวิถีของ King’s Bangkok ทั้งนี้ ขอชื่นชมบุคลากรครูของเราที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับโลก ที่มีความมุ่งมั่นเพื่อลูกศิษย์ และพ่อแม่ทุกท่านที่ทุ่มเทเต็มร้อยและตอบรับสนับสนุนทุกความตั้งใจของเรา จึงทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่ว่าจะสอนที่โรงเรียนหรือสอนออนไลน์ที่บ้านสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ”
มิสเฮเลน เซิร์ล หัวหน้าครูระดับ Pre-prep โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ กล่าวว่า “ถึงจะจัดการเรียนออนไลน์ แต่เป้าหมายของเรายังเหมือนเดิมคือยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง เด็กๆ ยังคงได้รับความใส่ใจเช่นเดียวกับเวลาที่พวกเขามาโรงเรียน โดยหลังจากเริ่มเรียนออนไลน์ เราได้รับคำชมจากผู้ปกครองที่มีความพึงพอใจ และตัวเด็กๆ เองก็รู้สึกสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมให้ หัวใจสำคัญของความสำเร็จ คือการทำความเข้าใจถึงโอกาสและความท้าทายอย่างชัดเจน การเสียสละของครูและความทุ่มเทของโรงเรียนที่ผนวกกับความตั้งใจของพ่อแม่ การสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องและสื่อสารกับทุกฝ่ายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งพัฒนาการของเด็กและความสุขของครอบครัว”
10 เคล็ดลับการเรียนออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพที่ King’s Bangkok ที่ให้ประโยชน์แก่เด็กๆ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้
1.เปิดใจรับฟัง เข้าใจปัญหา มีความยืดหยุ่น
เนื่องด้วยแต่ละครอบครัวมีเงื่อนไขและความต้องการไม่เหมือนกัน โรงเรียนจึงต้องเปิดใจรับฟังและตั้งคำถามถึงสิ่งที่เป็นปัญหาของการเรียนรู้ของเด็กและความต้องการของพ่อแม่ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถสร้างระบบการเรียนออนไลน์มีประสิทธิภาพสูงสุด
2.กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาการเด็กอย่างต่อเนื่องโดยยังรักษาความสุขของทุกคนในครอบครัว
สถานการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ปกติ โรงเรียนจึงควรกำหนดรายละเอียดในการสอนออนไลน์โดยมุ่งเน้นทั้งการพัฒนาการเด็กอย่างต่อเนื่องและให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขไปพร้อมๆ กัน โดยหลีกเลี่ยงการดำเนินการใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเครียดทั้งต่อเด็กและผู้ปกครอง
3.Sharing คือสิ่งสำคัญ
เน้นการ Sharing องค์ความรู้และประสบการณ์จากบุคลากรภายในและภายนอกโรงเรียนเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองได้อย่างแท้จริง
4.ทลายข้อจำกัดในทุกๆ ด้าน
โรงเรียนควรพยายามทำความเข้าใจในข้อจำกัดต่างๆ อาทิ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการเรียน และลดความยุ่งยากในการจัดหาของผู้ปกครอง ทั้งในเรื่องอุปกรณ์ IT การสอนวิธีการใช้งาน และการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการเรียนสำหรับเด็กๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เด็กๆ ได้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีที่สุด และเป็นการลดภาระของผู้ปกครอง
5.การสอนสดมากที่สุดแม้จะต้องทำงานหนักมากขึ้น
สิ่งสำคัญคือการให้เด็กเป็นศูนย์กลางทั้งหมดของการออกแบบการเรียนรู้ และเด็กๆ จะใส่ใจพร้อมเรียนรู้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อได้รับการอธิบายจากครูเป็นกลุ่มเล็กๆ ดังนั้น โรงเรียนจึงควรแบ่งห้องเรียนใหญ่เป็นห้องย่อย เพื่อให้สามารถสอนสดและสามารถสร้างความมีส่วนร่วมไปจนถึงรู้ได้ถึงพัฒนาการนักเรียนของเขาได้อย่างใกล้ชิด ยกตัวอย่างเช่น ที่ King’s Bangkok คุณครูจะต้องทำงานหนักมากเนื่องจากต้องสอนในบทเรียนเดิมๆ ถึง 3-4 รอบ และยังจะต้องตรวจการบ้านทุกคนภายในระยะเวลาอันสั้น เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ จะได้รับการดูแลที่สามารถพัฒนาพวกเขาได้จริงๆ
6.สร้างสภาพแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้
การทำให้เด็กๆ รู้สึกเหมือนตอนอยู่โรงเรียนจะช่วยให้กระตือรือร้นในการเรียนรู้ ยกตัวอย่างที่ King’s Bangkok ให้เวลาในช่วงการเข้าเรียนและเวลาเลิกเรียน เป็นเวลาที่ทำให้เด็กๆ ได้มาเจอครู เจอเพื่อน และมีปฏิสัมพันธ์เฉกเช่นเดียวกับเวลาที่มาโรงเรียน นอกจากนี้ ยังมีการให้เด็กๆ ลุกมาแต่งตัวตอนเช้า และในช่วงต่างๆ ก็จะมีครูใหญ่แวะเวียนมาทักทายในแต่ละชั้นเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายกับเมื่อเด็กๆ ได้มาโรงเรียน
7.เน้นสร้างความสมดุลย์
เพื่อช่วยลดผลกระทบของการอยู่หน้าจอที่นานเกินไป และตระหนักถึงภาวะกดดันที่อาจจะเกิดจากความเปลี่ยนแปลงต่อเด็กๆ ดังนั้น คุณครูจึงจำกัดระยะเวลาในการเรียนให้เป็นไปตามวัยที่สมควร และให้มีช่วงเวลาที่นักเรียนได้หยุดจากจอเพื่อไปทำกิจกรรมอื่นๆ ก่อนกลับมาเรียนต่อในชั้นเรียนออนไลน์ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ จะไม่ต้องรับความกดดันจนเกินไป
8.การอยู่หน้าจอต้องท้าทายและแปลกใหม่
เด็กๆ อาจจะมีความเบื่อหน่ายกับสิ่งต่างๆ ดังนั้น เมื่อต้องให้พวกเขาเรียนรู้ผ่านหน้าจอ คุณครูของเราจึงต้องทุ่มเทและคิดค้นวิธีการเรียนที่น่าสนใจมากขึ้นไปทุกวัน ตัวอย่างเช่น แผนกกีฬาที่ผลิตสื่อวีดีโอใหม่ในทุกวัน แม้การพัฒนาร่างกายส่วนต่างๆจะมีมาตรฐานที่ถูกกำหนดมาแล้ว แต่ก็เพื่อให้เด็กเกิดความสนุกในการติดตามชมและออกกำลังกาย นอกจากนี้ โรงเรียนยังต้องการสร้างการมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นในเด็กๆ จึงมีการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งกิจกรรมระหว่าง House เป็นต้น
9.รักษาสภาพจิตใจทั้งครูและนักเรียน
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทุกคนย่อมต้องการกำลังใจ ดังนั้น เราจึงหมั่นให้กำลังใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะคุณครูเองที่ต้องทำงานหนักกว่าปกติหลายเท่าตัว โรงเรียนจึงจัดสวัสดิการและกิจกรรมต่างๆ ให้คุณครูและนักเรียนได้ร่วมสนุกและผ่อนคลายไปด้วยกัน ซึ่งเมื่อคุณครูมีความสุขแล้ว ก็จะส่งผลให้สิ่งที่ถ่ายทอดไปยังนักเรียนเป็นไปได้ด้วยดี
10.เน้นการประเมินผลและสื่อสาร
โรงเรียนจัดให้มีทั้งแบบสอบถามออนไลน์ มีการประเมินผลความพึงพอใจ รวมถึงเปิดช่องทางต่างๆ เพื่อการเรียนรู้และนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพ พร้อมทั้งสื่อสารกับผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ทางโรงเรียนพร้อมเปิดรับสมัครนักเรียนชั้น Pre-nursery ถึง Year 10 ในปี 2564 และจะเปิดเพิ่มเติมจนครบถึง Year 13 ในปีต่อๆ ไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือยื่นใบสมัครที่ www.kingsbangkok.ac.th หรือ โทร. 02-481-9955
ชมคลิปแนวทางการเรียนแบบคิงส์คอลเลจ >>>