FRANCE GO…GO
ฝรั่งเศส ณ ที่นี้มีมนต์ขลัง
ฝรั่งเศส ประเทศที่มีหลายเรื่องราวให้เอ่ยถึง เมื่อครั้งอดีตกาลในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งคณะทูตนำโดย เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักฝรั่งเศส ในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ถึง 4 ครั้ง ซึ่งทางคณะทูตได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ พระราชวังแวร์ซาย พระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่แวร์ซาย ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส
พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก ที่ยังคงอยู่ในสภาพดี และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ ภายในมีทั้งหมด 700 ห้อง ภาพวาด 6,123 ภาพ งานแกะสลักอีก 15,034 ชิ้น ภายในพระราชวังตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลัก และเครื่องเรือน ซึ่งเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล มีโบสถ์หลวงประจำพระราชวัง ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ห้องอพอลโล ห้องเมอคิวรี่ ห้องกระจก (Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และยังเคยใช้เป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1 และใช้เป็นที่ลงนามเมื่อครั้งเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2
ห้องกระจกแห่งนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงทำการก่อสร้างเอง และยังเป็นห้องที่เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็น ห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยง และเต้นรำของพระนางมารีอ็องตัวเเน็ต มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน พอเปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายอันสวยงามด้านนอก
ฝรั่งเศส ไม่ได้มีสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่ทรงคุณค่าเพียง พระราชวังแวร์ซายส์เท่านั้น ยังมีอาสนวิหารน็อทร์ดามแห่งปารีส อายุกว่า 800 ปี เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส ถือกันว่าเป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส การก่อสร้างเป็นแบบกอทิก นับเป็นอาสนวิหารแรกที่สร้างในลักษณะนี้ และการก่อสร้างก็ทำ ต่อเนื่องมาตลอดสมัยกอทิกประติมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ ทำให้แตกต่างจากศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยม และยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหารสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตร เป็นสภานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารีอ็องตัวเเน็ต และยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ศูนย์ของประเทศฝรั่งเศส
น็อทร์ดามแห่งปารีสเป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งก่อสร้างแรกที่ใช้ ครีบยันลอย ตามแบบเดิมไม่ได้บ่งถึงกำแพงค้ำยันรอบอาสนวิหาร “บริเวณร้องเพลงสวด” หรือ “รอบบริเวณกลางโบสถ์” เมื่อเริ่มสร้างกำแพงโบสถ์สูงขึ้นไปกำแพงก็เริ่มร้าวเพราะน้ำหนักของสิ่งก่อสร้าง เพราะสถาปนิกสมัยกอทิกจะเน้นการสร้างสิ่งก่อสร้างที่สูง บาง และโปร่ง เมื่อสร้างสูงขึ้นไปกำแพงก็ไม่สามารถรับน้ำหนักและความกดดันของกำแพงและหลังคาได้ ทำให้กำแพงโก่งออกไปและร้าว สถาปนิกจึงใช้วิธีแก้ด้วยการเติม”กำแพงค้ำยัน” ที่กางออกไปคล้ายปีกนกด้านนอกตัววัด เพื่อให้กำแพงค้ำยันนี้หนุน หรือค้ำกำแพงตัวโบสถ์เอาไว้ เมื่อทำไปแล้วนอกจากจะมีประโยชน์ทางการใช้สอย แล้วยังกลายเป็นเครื่องตกแต่งที่ทำให้สิ่งก่อสร้างสวยงามขึ้น ฉะนั้นวิธีแก้ปัญหานี้ จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของโบสถ์ที่สร้างแบบกอทิกไปแล้ว
เมืองตูร์ เมืองประวัติศาสตร์แห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ ตั้งอยู่ระหว่าง แม่น้ำลัวร์ทางตอนเหนือ และแม่น้ำแชร์ทางตอนใต้ ลุ่มแม่น้ำลัวร์เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงแคว้นลัวร์ และเป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดของฝรั่งเศสถึง 1,013 กิโลเมตร หล่อเลี้ยงต้นองุ่นหลายร้อยตำบลในหลายแคว้น สองฟากฝั่งมีปราสาท หรือชาโตสำคัญของกษัตริย์ฝรั่งเศส และเชื้อพระวงศ์ที่สวยงามนับพันแห่ง ปราสาทเชอนองโซ สร้างบนฝั่งแม่น้ำแชร์ และสร้างมาก่อนหน้าที่จะมีหลักฐานทางเอกสาร เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 ออกแบบโดยฟิลแบรต์ เอลอร์ม สถาปนิกเรอเเนซ็องส์ตระกูลเมเนียร์ ลักษณะของสถาปัตยกรรมของเชอนงโซ เป็นแบบผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมกอทิกและสถาปัตยกรรมเรอเเนซ็องส์ตอนต้น ลานด้านหน้าวางแบบลานปราสาทยุคกลางล้อมรอบด้วยคูน้ำ ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ทำจากไม้แกะสลัก ด้านในเป็นชาเปล โดดเด่นด้วยหน้าต่างประดับกระจกสี ห้องบรรทม ห้องกรีน เป็นลักษณะศิลปะแบบกอธิคทิกและเรอเเนซ็องส์ ห้องรับรอง ห้องบรรทม พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 ห้องพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และห้องโถงตกแต่งด้วยเพดานโค้งสันที่มีหินหลักแยกจากกันเป็นเส้นขาด เป็นห้องที่แกะสลักที่สวยที่สุดในการตกแต่งแบบเรอเเนซ็องส์แบบฝรั่งเศส
มหาวิหารรูอ็อง โมเนต์ได้วาดภาพวิหารแห่งนี้ในช่วงเวลาที่ต่างกัน โมเนต์เปลี่ยนผ้าใบที่ใช้วาดผืนแล้วผืนเล่า แสงที่สาดส่องบนวิหารก็เปลี่ยนตามไปด้วย ภาพเขียนคอลเลกชันนี้มีทั้งหมด 28 ภาพ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ในอดีตเป็นพระราชวังที่ใหญ่โตมากที่สุดของโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าฟิลิปออกุสต์ ราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและใหญ่โตที่สุดในปารีส ภายในเป็นที่เก็บรักษาวัตถุโบราณต่างๆ ที่มีค่า และมีชื่อเสียงของโลก เช่น ภาพเขียนลาชาก็อง หรือภาพโมนาลิซ่า อันเป็นภาพวาดของเลโอนาร์โด ดา วินชี จิตรกรและสถาปนิกชาวอิตาเลียน และวัตถุโบราณซึ่งเป็นศิลปะอันล้ำค่าจากชาติต่างๆกว่า 300,000 ชิ้น ที่ฝรั่งเศสเคยมีอิทธิพลปกครองมาในอดีต ส่วนใหญ่ได้มาจากตะวันออกกลาง และอาณานิคมจากประเทศในเอเชีย เช่น รูปแกะสลักซาโมทราซ และรูปแกะสลักเทพธิดาวีนัส และในปี ค.ศ. 1981 เอ็ม.ไอ.เพ สถาปนิกชาวอเมริกัน ได้สร้างทางเข้าพิพิธภัณฑ์เป็นรูปปิรามิด กระจกครอบคลุมเนื้อที่บนลาน นโปเลียน ทำให้สถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ดูโดดเด่นเป็นสง่า
สั่งจองนิตยสาร Howe โดยไม่ต้องรอหาตามแผงสั่งได้ที่
Line : Howemagazine
Fanpage : Howemagazine
รายละเอียดการสั่ง (คลิ๊ก)
อ่านนิตยสาร Howe Magazine ออนไลน์ได้ที่
