WATCH & JEWELRY
BASEL WORLD 2018
เรือนเวลาสุดลำ้ค่า ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยวัสดุสุดหรู พร้อมฟังก์ชั่นและกลไกการบอกเวลาที่เที่ยงตรง ทนทาน ผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ตามสไตล์และแบบฉบับที่เป็นตัวเอง
OMEGA SEAMASTER DIVER 300M
ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร พร้อมขอบเบเซิลเซรามิกและสเกลแบบเซราโกลด์TM หรือ ไวท์อีนาเมล กลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 8800 ที่มีความเที่ยงตรงทนทาน สามารถป้องกันพลังจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น หน้าปัดผลิตจากเซรามิกที่มีให้เลือกทั้งสีดำ สีน้ำเงิน และสีเงิน พร้อมสัญลักษณ์ลายคลื่น อันโด่งดัง ประกบด้วยมาร์กเกอร์ที่เคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่า เข้าคู่กับเข็มนาฬิกาที่มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยภายใต้ทรงและรูปแบบดั้งเดิม ปุ่มกดทรงแป้นขนาดใหญ่สไตล์วินเทจ
OMEGA SEAMASTER 1948 LIMITED EDITIONS
เรือนเวลาที่สร้างสรรค์ตามแบบฉบับดั้งเดิม ทั้งหน้าปัดสตีลขัดด้าน เข็มนาฬิกาที่มีปลายโค้งรับกับหน้าปัด วงแสดงเวลาวินาทีที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมสายหนังสีน้ำตาล หรือ รุ่นที่แสดงเข็มวินาทีกลางหน้าปัด เข็มชั่วโมงและนาทีแบบดอลฟีนที่เคลือบสารเรืองแสง ซูเปอร์ลูมิโนว่า เข้าคู่กับสายหนังสีน้ำเงินเทา มีการแกะสลักและลงแลคเกอร์ด้วยมือ สัญลักษณ์การฉลองครบรอบ 70 ปี ที่แสดงให้เห็นถึงยานพาหนะที่ใช้ในการรบทั้งทางน้ำและอากาศ โดยรอยัลแอร์ฟอร์ซ ผลิตเพียง 1,948 เรือน
GLASHUTTE ORIGINAL SIXTIES PANORAMA DATE
นาฬิกาที่ถูกนำมาเล่าขานใหม่นี้ เน้นสีขาวที่มาช่วยเสริมความพิเศษของกลไกโครโนกราฟให้ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น เปี่ยมไปด้วยความมีระดับของความลงตัวระหว่างหน้าปัดสีขาวกับมาร์กเกอร์สีดำสนิทที่พร้อมส่องประกายสีเขียวสว่างตาทันทีในที่มืด กลไกคาลิเบอร์ 37 ได้รับความนิยมอย่างมากหลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อสี่ปีที่แล้วในตัวเรือนแพลทตินั่มและเรดโกลด์ มีจักรคอลลั่มวีลเป็นจักรสำคัญที่มีความโดดเด่นเมื่อมองผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์จากด้านหลัง
GLASHUTTE ORIGINAL SENATOR PANORAMA DATE MOON PHASE
สำหรับรูปโฉมได้ถูกรังสรรค์มาในสามโทนสีหน้าปัดยอดนิยม สีน้ำเงินกัลวานิคแบบซันเรย์ สีเงินเทากัลวานิคแบบลายขัดแนวตั้ง และสีขาวแลคเคอร์ กลไกอัตโนมัติเบสคาลิเบอร์ 36 สามารถปรับตั้งวันที่ และมูนเฟสได้โดยตรงจากเม็ดมะยม โดยปราศจากการใช้ปุ่มช่วยแต่อย่างใด
CLASSIC FUSION CHRONOGRAPH BERLUTI
เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง Berluti กับ Hublot และแต่ละครั้งก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง โดยครั้งนี้ Berluti สามารถผสมผสานไปได้ดีกับโมเดลยอดนิยมอย่าง Classic Fusion Chronograph โดยเป็นทางเลือกชุดสีในสองคอมบิเนชั่น ทั้งวัสดุตัวเรือนพิงค์โกลด์กับสีหน้าปัดและสายแดงแบบเบอร์กันดี หรือสีหน้าปัดและสายน้ำเงินเข้ม (ดีปบลู) ในตัวเรือนไทเทเนี่ยม
ROLEX COSMOGRAPH DAYTONA
เรือนเวลาที่ถูกนำมาประดับเพชรกลมที่ขาตัวเรือนและบ่าเม็ดมะยม พร้อมประดับแซฟไฟร์แบบบาเก็ทคัทไล่สีแบบเรนโบว์ รอบขอบเบเซิลและมาร์กเกอร์บนหน้าปัด รวมทั้งพิงค์โกลด์คริสตัลในวงหน้าปัดจับเวลากับตัวเรือนเอเวอร์โรสโกลด์ ยิ่งส่งให้มีความล้ำค่าเพิ่มมากขึ้นเป็นที่สุด
PATEK PHILIPPE NAUTILUS PERPETUAL CALENDAR
เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีของ Nautilus จึงถูกรังสรรค์ขึ้นมาในหน้าปัดสีน้ำเงิน ให้เป็นเรือนเวลาที่มีความสลับซับซ้อน ความน่าถวิลหาในความบางที่เกิดขึ้นจากหลายๆ องค์ประกอบ ไมโครโรเตอร์ คือหนึ่งจุดหลักที่ทำให้เกิดความสวยงามนี้ขึ้นได้ โดยตัวเรือนมีความบางมากกว่าแอนนวลคาเลนดาร์อย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโฟลดิ้งบัคเคิลแบบใหม่ ที่ปรับปรุงให้สวมใส่สบายมากขึ้น
PATEK PHILIPPE WORLD TIME MINUTE REPEATER
เป็นครั้งแรกที่ฟังก์ชั่นเวิลด์ไทม์กับฟังก์ชั่นมินิทรีพีทเตอร์ มารวมอยู่ด้วยกันในเรือนเดียว โดยกลไกใหม่นี้จะตีบอกเวลาเฉพาะเวลาของโฮมไทม์ ดังนั้นไม่ว่าจะตั้งโลคัลไทม์ไปที่ไหน การตีบอกเวลาจะไม่เกิดสับสน และยังมีกลไกพิเศษที่ป้องกันการกดปุ่มเวิลด์ไทม์ ในขณะที่กำลังตีบอกเวลา เพื่อป้องกันความเสียหายของกลไก ตัวเรือนที่แกะสลักลายฮ็อบเนลรอบตัวเรือน และขาสายแบบโปร่งที่ผนึกติดเข้ากับตัวเรือน เพื่อประโยชน์ทางด้านการกระจายเสียงออกจากตัวเรือน และทำให้เกิดเสียงที่ดังเหมาะสมที่สุด