Computer Vision Syndrome
จากสถิติด้านการใช้สายตาพบว่า ในกลุ่มคนทำงานและวัยรุ่นมีการใช้สายตามากถึงวันละ 8-10 ชั่วโมงติดต่อกัน ซึ่งยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี และใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากจนแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน เพื่อการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน เช็คอีเมล์ เล่นโซเชียลมีเดีย ดูหนัง ดูซีรี่ส์ ฟังเพลง เล่นเกมส์ ช้อปปิ้งออนไลน์ มากกว่าการอ่านหนังสือ หรือทำงานโดยใช้กระดาษ นี่ยังไม่นับรวมถึงการดูทีวี รวมๆแล้วเราใช้สายตาไปกับการจ้องหน้าจอเพิ่มมากขึ้นแบบไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่าเด็กไทยมีภาวะทางสายตาผิดปกติมากถึงร้อยละ 6.6 และต้องใส่แว่นตาร้อยละ 4.1 และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ปกครองหลายท่านเลี้ยงลูกแบบง่ายๆ ด้วยการให้ลูกอยู่กับหน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนตั้งแต่เล็กๆ ส่งผลให้เด็กติดหน้าจอจนไม่สนใจกิจกรรมอื่นๆที่เด็กควรทำให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้
อาการทางสายตาที่เห็นได้ชัดหากเราเป็นมนุษย์ติดจอ ได้แก่ ปวดตา ตาแห้ง แสบตา เคืองตา ตาพร่ามัว น้ำตาไหล ตาสู้แสงไม่ได้ กล้ามเนื้อดวงตาล้า และยังมีอาการทางกล้ามเนื้ออื่นๆร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ ปวดร้าวที่ต้นคอ บ่า ไหล่ เหล่านี้เรียกว่าอาการ Computer Vision Syndrome หากไม่ดูแลสุขภาพตาให้ดี อาการเหล่านี้อาจพัฒนารุนแรงมากขึ้นในอนาคต เสี่ยงต่อการเป็นโรคทางสายตา เช่น โรคต้อต่างๆ โรคจอประสาทตาเสื่อม โรควุ้นในตาเสื่อม ม่านตาอักเสบ หรือร้ายแรงไปกว่านั้นอาจถึงขั้นตาบอดได้
เราควรหันมาดูแลสุขภาพดวงตาตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยให้สายเกินแก้ หากต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆก็ควรพักสายตาทุกๆ 1 ชั่วโมง มองออกไปข้างนอกเพื่อพักสายตากับวิวทิวทัศน์หรือมองต้นไม้สีเขียวๆบ้าง และกระพริบตาบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา หรือหยอดน้ำตาเทียมในกรณีที่ตาแห้ง ปรับลดแสงสว่างที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ลงไม่ให้แสงจ้าเกินไป นั่งทำงานในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืด ปรับขนาดตัวหนังสือให้ใหญ่ขึ้นและอ่านง่าย เพื่อลดการใช้สายตาเพ่งหรือจ้องหน้าจอมากเกินไป ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป ดูแลความสะอาดคอนแทคเลนส์อยู่เสมอ สวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกแดด ใส่แว่นที่มีค่าสายตาเหมาะกับสายตาของเรา และควรเลือกเลนส์แบบกรองแสง เลือกรับประทานอาหารบำรุงสายตา เช่น ปลาแซลมอน ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง แครอท ฟักทอง ไข่ มะละกอ อัลมอนด์ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หากมีอาการปวดตาให้นำแตงกวาแช่เย็นมาฝานเป็นชิ้นบางๆวางลงบนเปลือกตา หรือประคบเย็นด้วยการนำถุงชาแช่เย็นวางลงบนเปลือกตา เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย ลดอาการอ่อนล้าของดวงตา หรือดาวโหลดแอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการตัดแสงสีฟ้ามาไว้ใช้ในสมาร์ทโฟน เพื่อเป็นการลดแสงในการใช้งาน และควรตรวจเช็คสายตาปีละ 1 ครั้ง หากมีอาการผิดปกติทางด้านการมองเห็นควรรีบไปพบจักษุแพทย์ และในส่วนของเด็ก ก็ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนมากเกินไป ควรหากิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจให้เด็กทำ
สั่งจองนิตยสาร Howe โดยไม่ต้องรอหาตามแผงสั่งได้ที่
Line : Howemagazine
Fanpage : Howemagazine
รายละเอียดการสั่ง (คลิ๊ก)
อ่านนิตยสาร Howe Magazine ออนไลน์ได้ที่
