“หลังสถานการณ์โควิดผ่อนคลายลง สมาชิกบัตรของเราเริ่มกลับมามองหาประสบการณ์ที่ห่างหายไปนานกว่า 2 ปี ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งบัตรแพลทินัมถูกนิยามให้เป็นเหมือนเพื่อนร่วมเดินทางที่ตอบสนองด้านไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมและความต้องการที่เปลี่ยนไปของสมาชิกบัตร เพื่อการนี้ เรายินดีอย่างยิ่งที่จะนำเสนอสิทธิประโยชน์ใหม่เพื่อยกระดับการใช้บัตรและให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การพบปะผู้คนในชีวิตประจำวันหรือการพักผ่อนในวันหยุดกับครอบครัว” คุณพร้อม สิริสันต์ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรส (ไทย) จำกัด กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวครั้งนี้ยังได้คุณอรนลิน โลจนะโกสินทร์ ศิลปินและกรรมการบริหารแบรนด์ SEASONS OF LIVING ละคุณชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ในฐานะผู้ถือบัตร American Express Platinum ซึ่งได้รับความสะดวกจากการดูแลของพนักงานคอลล์ เซ็นเตอร์ และได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ทางอเมริกัน เอ็กซเพรสยังมอบสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มเข้ามานั้นมีมูลค่ารวมกันมากกว่าค่าสมาชิกรายปีถึง 3 เท่า โดยที่ค่าสมาชิกรายปียังคงเท่าเดิม
สิทธิประโยชน์ใหม่ด้านไลฟ์สไตล์ Global Dining Credit มูลค่า 14,000 บาท
สมาชิกบัตรแพลทินัมจะได้รับเครดิตเงินคืนสำหรับทานอาหารมูลค่า 14,000 บาท โดยแบ่งเป็นเครดิตมูลค่า 7,000 บาทสำหรับร้านอาหารในประเทศไทย และเครดิตมูลค่า 7,000 บาทสำหรับร้านอาหารในต่างประเทศ โดยร้านอาหารที่ร่วมรายการในไทยนั้นประกอบด้วย Fine Dining ระดับ Michelin-starred อาทิ Blue Elephant, Sühring, และ Paste ซึ่งนอกจากร้านที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว สมาชิกบัตรยังสามารถดูรายชื่อร้านอาหารที่ร่วมรายการกว่า 1,400 แห่ง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยสิทธิประโยชน์นี้จะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อาทิ
Stella Bar ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ Platinum 1 for 1 สิทธิประโยชน์ Platinum 1 for 1 นี้เป็นข้อเสนอพิเศษที่มอบให้สมาชิกบัตรแพลทินัม เพื่อรับความคุ้มค่าที่มากกว่า ปัจจุบันครอบคลุมถึงข้อเสนอในหมวดห้องพักโรงแรมและรีสอร์ท, Sunday Brunch, ชุดเมนูพิเศษ, Afternoon Tea, บริการสปา และบริการเช่ารถยนต์ ซึ่ง Stella Bar ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ใหม่ที่เข้าร่วมรายการ โดยสมาชิกบัตรจะได้รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว เมื่อซื้อเครื่องดื่มที่ร่วมรายการ 1 แก้วในช่วงเวลา Platinum Hours จำกัดสูงสุด 3 แก้วต่อบัตรต่อการเข้าใช้บริการ
นอกจากนี้ยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาว อีก 2 แห่ง ได้แก่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ และโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด มัลดีฟส์ ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ Platinum 1 for 1 ในหมวดห้องพัก โดยสมาชิกบัตรจะได้เข้าพักฟรี 1 คืนจากทุุก ๆ 1 คืนที่ชำระค่าห้องพัก สิทธิประโยชน์ Platinum 1 for 1 ยังรวมถึงข้อเสนอ “มา 2 จ่าย 1” สำหรับ Sunday Brunch และเมนูชุดพิเศษ โดยมีโรงแรมที่เข้าร่วมรายการเพิ่มเติมได้แก่ คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท ภูเก็ตทาวน์ และ หัวหิน แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา สมาชิกบัตรแพลทินัมสามารถใช้สิทธิประโยชน์ Platinum 1 for 1 ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยข้อเสนอจากพาร์ทเนอร์ใหม่ที่ร่วมรายการสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
นอกจากนี้สมาชิกบัตรยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ต่อเนื่องจากปี 2565 ได้แก่
• อภินันทนาการเข้าพัก 1 คืน ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
• รับคะแนนสะสมเม็มเบอร์ชิป รีวอร์ด 5 เท่า จากยอดใช้จ่ายในต่างประเทศ
• บริการรถลีมูซีนรับ-ส่งสนามบินทั้งขาไปและกลับจากสนามบินสุวรรณภูมิหรือสนามบินดอนเมืองสำหรับทุก ๆ การเดินทางไปต่างประเทศที่สำรองเที่ยวบินกับพาร์ทเนอร์ที่ร่วมรายการ ผ่านแผนกบริการการเดินทางสำหรับสมาชิกบัตรแพลทินัม
• สิทธิ์เข้าใช้ห้องรับรองในสนามบินกว่า 1,300 แห่งทั่วโลกโดยไม่จำกัดครั้งในรายการ Global Lounge Collection
• ประกันภัยการเดินทางคุ้มครองสูงสุดถึง 25 ล้านบาท
• ส่วนลดจากห้องอาหารที่ร่วมรายการ ณ โรงแรมชั้นนำในประเทศไทย
คุณพร้อมยังกล่าวว่า “เรามีความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทั้งในส่วนการให้บริการ ประสบการณ์การใช้บัตร และความคุ้มค่าที่มอบให้สมาชิกบัตรทุกท่าน”
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม หรือข้อมูลการสมัครบัตร สามารถดูเพิ่มเติมที่ https://go.amex/platinum2023_th