การบริหารองค์กรพลังงานระดับโลก นับเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งคุณอรอุทัย ณ เชียงใหม่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้รับบทบาทสำคัญเพื่อขับเคลื่อนองค์กร สู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่เปี่ยมศักยภาพ และมีวิสัยทัศน์ชัดเจน
เชลล์ฯ ดำเนินธุรกิจเติบโตคู่กับประเทศไทย มากว่า 133 ปี ดูแลลูกค้า B2C ผ่านธุรกิจค้าปลีก Mobility & Convenience มีสถานีบริการเชลล์ครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 700 แห่ง และลูกค้า B2B ผ่านธุรกิจบัตรเติมน้ำมัน Shell Card ที่ช่วยให้คุณจัดการค่าน้ำมันเพื่อธุรกิจของคุณแบบครบวงจร และพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรบนท้องถนนให้คุณไปได้ไกลยิ่งขึ้น ธุรกิจขายตรงและค้าส่งธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเตา และยางมะตอยสำหรับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
เชลล์ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 80 ประเทศของกลุ่มบริษัทเชลล์ เป็นบริษัทพลังงานและปิโตรเคมีชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มี Active B2B Customers มากกว่า 100,000 รายให้บริการลูกค้ามากกว่า 33 ล้านคนทั่วโลกในแต่ละวัน ผ่านสถานีบริการมากกว่า 47,000 แห่ง เป็น Brand ที่มี Retail Footprint ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กลยุทธ์ของเราคือ More Value, Less Emission เชลล์มุ่งมั่นที่จะส่งมอบพลังงานที่สะอาดกว่า มีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในปัจจุบันและอนาคตในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน อันเป็นผลมาจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงจำนวนประชากรของโลกที่เพิ่มมากขึ้น
เชลล์ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 และเป้าหมายให้ผลตอบแทนที่แข็งแรงให้กับผู้ถือหุ้นเพื่อให้เราได้รับความไว้วางใจในการลงทุนต่อไปในอนาคต เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เราให้ความสำคัญกับ

1. การใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม ซึ่งเป็นจุดแข็งของเชลล์ คิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานและการบริการในรูปแบบต่างๆ ให้กับลูกค้าและพันธมิตร อีกทั้งใช้ความเชี่ยวชาญของเชลล์ช่วยยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติการในประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เชลล์มี Technology Solutions Centers อยู่ 5 แห่งทั่วโลก ที่อเมริกา เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี จีน และอินเดีย มีนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรปฏิบัติงานอยู่กว่า 4,500 คน คิดค้นพัฒนาร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถบรรทุก และรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำ
เชลล์ใช้งบลงทุน Research & Development (R&D) ทุกปีกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อให้ได้พลังงานที่สะอาดกว่าและมีประสิทธิภาพสูงสุดของเชลล์ และในปี 2023 เชลล์ลงทุนเพิ่มใน R&D อีกกว่า 20,000 ล้านบาทเพื่อคิดค้นพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ๆ (Low Carbon Solutions) อีกทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานเรื่องความปลอดภัยให้กับอุตสาหกรรมพลังงานและสร้างความปลอดภัยให้ชุมชนคนไทยอย่างต่อเนื่อง
2. สร้างให้เชลล์ในประเทศไทยเป็นองค์กรที่มีความสุข ให้พนักงานทุกคนภูมิใจที่ได้ทำงานกับองค์กรพลังงานระดับโลก ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นให้มีความเจริญก้าวหน้า เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อพนักงานมีความสุขก็จะสามารถส่งต่อความสุขไปถึงลูกค้าของเรา สะท้อนผ่านความภูมิใจกับรางวัลที่เราได้รับ เช่น (1) 2024-2025 Thailand’s Most Admired Company เรื่อง Corporate Image โดยนิตยสาร BrandAge (2) รางวัลระดับภูมิภาคเอเชีย จากเวที Asian Oil & Gas Awards 2024 เรื่อง “Operations and Maintenance Initiative of the Year” ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมพลังงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการปฏิบัติงานที่ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ความปลอดภัย และความยั่งยืนในการดำเนินงาน (3) จากการสำรวจ ของ Brand Finance Global 500 ในปี 2024 ความแข็งแกร่งและมูลค่าของแบรนด์เชลล์ขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 23 จากลำดับที่ 25 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2023 มูลค่าของแบรนด์อยู่ที่ 50,302 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงที่สุดในบรรดาธุรกิจพลังงานระดับโลกด้วยกัน (4) ในปี 2024 บริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลกอย่าง Kline & Company มีรายงาน 22nd Edition Global Lubricants : Market Analysis and Assessment 2023 ผลการสำรวจและวิจัยออกมาว่า น้ำมันหล่อลื่นเชลล์มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันถึง 18 ปี ในหมวดของน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งน้ำมันหล่อลื่นสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม
“แนวทางการบริหารงาน อรให้ความสำคัญเรื่อง ‘คน’ เป็นอันดับต้นๆ ในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าขององค์กรและการเอาชนะเป้าหมายที่วางไว้ (People Make the Difference Real) โดยมีหลักการทำงานดังนี้ :
“1. Shell Core Values : พนักงานเชลล์ทุกคนยึดถือคุณค่าหลักขององค์กร อันได้แก่ การทำงานด้วยความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม และให้ความเคารพซึ่งกันและกัน รวมถึงให้ความเคารพคนในทุกภาคส่วนที่เราทำงานด้วย อีกทั้งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยให้ทุกคนกลับบ้านไปหาคนที่รักอย่างปลอดภัยในทุกๆ วัน และปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด”
“2. Diversity Equality and Inclusiveness : สร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง ให้มีสมาชิกร่วมทีมที่มีประสบการณ์และความสามารถแตกต่าง-หลากหลายในทุกมิติ ทั้งความเชี่ยวชาญ เพศ อายุ ความเชื่อ เป็นต้น และให้ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยอมรับความแตกต่าง ให้โอกาสทุกคนแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เราส่งเสริมให้สภาพแวดล้อมการทำงานของคนในองค์กรให้รู้สึกปลอดภัย ที่จะแสดงความคิดเห็น โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลงโทษ (Psychological Safety) อีกทั้งส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้ เพิ่มโอกาสในการไปพัฒนาศักยภาพโดยการไปร่วมงานกับหน่วยงานของเชลล์ในต่างประเทศ (Career Development Opportunities)”
“เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของเชลล์ทั่วโลกมีเพียง 4% ที่เป็นผู้หญิง ในวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 32.5% และภายใน 2030 เราตั้งเป้ามีผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้หญิงถึง 40%”
“3. Performance, Discipline, Simplification : มีหลักการทำงานเข้มข้นวัดผลจากผลงาน มีวินัย ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากเพื่อความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และยังส่งเสริมให้พนักงานทำงานเยี่ยงกิจการของตนเอง เช่นในการดูแลงบประมาณค่าใช้จ่าย เป็นต้น
“คำแนะนำสำหรับผู้หญิงที่ต้องการประสบความสำเร็จ คือการ ‘เลือก’ ว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องใดในชีวิต รวมถึงการ ‘เลือกองค์กร’ ที่เราอยากทำงานด้วย ในเชลล์เรามีวัฒนธรรมองค์กรและมีเป้าหมายชัดเจนในการสนับสนุนผู้หญิงที่มีความพร้อม ให้มีการเติบโตก้าวหน้าอย่างโปร่งใสและยุติธรรม”
“ถ้าคุณกำลังเลือกว่าจะทำงานที่ไหนดี…อรพูดได้อย่างมั่นใจว่า องค์กรเชลล์ของเราเป็นองค์กรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับผู้หญิงทำงานค่ะ”