Rossukon Gonggate
รสสุคนธ์ กองเกตุ
ผู้หญิงชัดเจน และจริงใจกับตัวตน
หากพูดถึง “ผู้หญิงแถวหน้า” ของเมืองไทย “ครูเงาะ” หรือ “รสสุคนธ์ กองเกตุ” อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ทลายข้อจำกัด “ความเชื่อ” ในตัวเอง ก่อนเปลี่ยนข้อจำกัดของความเป็นผู้หญิง ให้มีความทัดเทียมไม่ต่างจากผู้ชาย ด้วยมุมมองในความเป็นคนชัดเจน และเลือกที่จะไม่โกหกตัวเอง
นักพัฒนาบุคลิกภาพ และ Acting Coach ชื่อดังในวงการบันเทิง “ครูเงาะ”นักพัฒนาบุคลิกภาพและ Acting เล่าถึงบทบาทของความเป็นผู้หญิงในสังคมไทย ที่เธอยอมรับว่า “ครูรู้สึกโชคดีมากที่เกิดบนแผ่นดินไทยที่นับว่าเป็นประเทศที่ให้เกียรติผู้หญิงพอสมควร ถ้าเทียบกับประเทศอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน ที่ผ่านมาเรามีนักรบหญิงมากมาย มีหัวหน้าที่เป็นผู้หญิงเป็นเรื่องปกติ แถมยังมีนายกที่เป็นผู้หญิงได้โดยที่ความเป็นผู้หญิงไม่ใช่ข้อจำกัดในตำแหน่งนี้ จะสังเกตได้ว่าคนไทยพร้อมยอมรับผู้หญิงเสมอ ไม่ว่าจะฐานะอะไรก็ตาม ถือว่าเราอยู่ในตำแหน่งที่ผู้หญิงหลายคนมีพื้นที่พอสมควร และยังมีพื้นที่อีกเหลือเฟือให้ผู้หญิงไทย”
ผู้หญิงทุกคนมีพื้นที่ยืน
ในความหมายของคำว่าพื้นที่ “ครูมองว่าประเทศนี้ให้เกียรติผู้หญิงค่อนข้างดี ที่ไม่ให้เกียรติมีไหม “มี” แต่ “ไม่ใช่นอร์ม” เราไม่มีคำดูถูก เช่น fight like a girl แต่เรามีคำว่าสองมือแม่นี้ที่สร้างโลก อย่างตัวของครูเองก็โตมากับการที่ไม่เคยรู้สึกว่า ‘น้อยกว่าผู้ชาย” เลย เราสามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่างเหมือนผู้ชาย แต่ เรื่องของข้อจำกัด อย่างเรื่องกายภาพ จริงค่ะ เรามีข้อจำกัดตรงนั้น แต่สิ่งที่จำกัดเราไม่ได้เลย คือ ความรู้ ความสามารถ สติปัญญาหรือหัวใจที่แข็งแกร่งเป็นนักสู้ ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับว่า ผู้หญิงแต่ละคนได้มองเห็นพื้นที่ของตัวเองหรือยัง
“สิ่งที่จำกัดผู้หญิง คือความเชื่อ และทัศนคติของตัวเขาที่มีต่อตัวเองการที่ผู้หญิงจะมองเห็นพื้นที่ของตัวเองได้มากแค่ไหน ครูเงาะย้ำว่า อยู่ที่ความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเองของแต่ละคน ซึ่งหล่อหลอมมาจากการเลี้ยงดูในครอบครัว และสิ่งแวดล้อมที่เราโตมา “บางคนโตมาในครอบครัวที่ผู้หญิงอยู่ในบทบาทจำยอม เขาก็จะมีโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่จำกัดผู้หญิง คือ ความเชื่อและทัศนคติของตัวเขาที่มีต่อตัวเอง อย่างตัวของครูก็เคยถูกจำกัดอยู่ในกรอบความเชื่อที่ตัวเองเคยได้ยิน และได้ฟังบ่อยๆ ตั้งแต่เด็ก (ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศ แต่เป็นเรื่องการลงทุน)” เมื่อก่อนแม่ครูชอบพูดบ่อย ๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจว่า บ้านพวกเราไม่มีหัวด้านการลงทุน จึงทำให้ครูไม่กล้าที่จะลงทุนอะไรเลยในตอนแรกของการทำงาน ครูอยากจะย้ำตรงนี้นะคะว่า อะไรที่เราได้ยิน ได้เห็น ตอนวัยเด็กช้ำๆ อาจส่งผลต่อความเชื่อในตัวเราโดยที่เราไม่รู้ตัว”
แต่หลังจากที่ครูเงาะ ทลายเพดานกระจก (Glass Celing) ที่เคยจำกัดเราไว้ กลับได้พบกับสิ่งที่น่าอัศจรรย์ในตัวเธอ “แต่ก่อนเป็นคนไม่กล้าลงทุนอะไรเลย หรือแม้แต่จะทำงานเก็บเงินได้เยอะมากแค่ไหนในแต่ละเดือน ก็จะเหลือเงินอยู่ค่อนข้างจำกัดมาตลอด นั่นเป็นเพราะเรามีเพดานกระจก ที่กด และทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง แต่หลังจากที่เราเอาเพดานนี้ออก เราก็เห็นความจริงว่าสิ่งที่เราเคยเชื่อนั้นไม่ใช่ความจริงเสมอไป จนวันนี้เราเป็นเจ้าของบริษัทถึง 4 บริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ ฉะนั้นหากผู้หญิงต้องการจะประสบความสำเร็จ เราต้องแยกให้ได้ระหว่างความเชื่อกับความจริง รวมถึงต้องถามตัวเองว่าแล้วเราเองนั้นได้เห็นศักยภาพในตัวเองหรือไม่ อย่ามองเรื่องเพศสภาพ เพราะนั่นไม่ใช่ข้อจำกัด ใจของเราต่างหากที่เป็นสิ่งจำกัดตัวของเราไว้”
เคล็ดลับทลายความเชื่อเก่า
หนึ่งในเคล็ดลับการแยกความเชื่อและความจริงที่ครูเงาะแอบกระซิบคือ หากเป็นความจริงต้องมีหนึ่งเดียว ใครๆ ก็เถียงไม่ได้ เช่นพระอาทิตย์ขึ้นทิศตะวันออก และตกในทิศตะวันตก” นี่คือความจริงค่ะ แต่ถ้ามีใครมาบอกว่าผู้หญิงไม่มีทางประสบความสำเร็จเหมือนผู้ชาย สิ่งนี้ไม่น่าจะใช่ เพราะวันนี้มีผู้หญิงหลายคนประสบความสำเร็จและเป็นผู้นำมากมาย เราต้องเขย่าความเชื่อ ด้วยคำถามง่ายๆ ว่า ‘จริงเหรอ ?!’ พอรู้ว่าเป็นเพียงความเชื่อไม่ใช่ความจริงก็ให้หาหลักฐานมางัดข้อความเชื่อเก่า เช่นมองให้เห็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จเยอะ ๆ และสิ่งสำคัญที่สุดกว่านั้น คือ เราต้องเห็นศักยภาพในตัวเองว่า เราขาดตรงไหนที่คนที่สำเร็จเขามีกันก็ไปหามาเติม ไปฝึกฝนเพิ่มจนชำนาญ แค่นี้ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร”
แม้วันนี้ครูเงาะจะลามารถเดินไปถึงเป้าหมายอย่างที่ตั้งไว้แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้หยุดที่เป้าหมายที่วางไว้เท่านั้น “ครูตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ 10 มิติ ครูอาจเข้าเส้นชัยแล้ว แต่คนเราต้องรู้ว่า แต่ละเป้าหมายนั้นมีไว้เพื่ออะไร เพราะหลายคนเข้าเป้าแล้วกลับเคว้งคว้างเพราะไม่เข้าใจคุณค่าที่แท้จริงในแต่ละเป้าหมายของตัวเอง เราไม่ได้แค่อยากมีบ้าน แต่เรามีบ้านเพื่อเป็นสถานที่แห่งความรัก เราไม่ได้แค่ทำยอดได้ แต่นั่นหมายถึงเราสร้างประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ ลูกน้อง และประเทศชาติ ดังนั้นแม้เข้าเป้าแล้ว แต่คุณค่าภายใต้เป้าหมายนั้นๆ จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ครูได้เดินต่ออย่างมีพลัง และเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของครูเงาะวันนี้คือ การปฏิบัติเพื่อจบการเวียนว่ายตายเกิด และเป็นประโยชน์ต่อศาสนาและแผ่นดิน”
และนี่คือความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในความเป็น” ครูเงาะ-รสลุคนธ์ กองเกตุ” ผู้หญิงที่ยอมรับความจริงในตัวเอง และมุ่งสู่เป้าหมายปลายทางชีวิตที่แท้จริง