“คุณตุ้ม ศศิวิมล สิงหเนตร” Founder & Happy Director แห่ง “มีสุข โซไซตี้” หลังจากที่เธอตัดสินใจเข้ามาบริหารธุรกิจครอบครัวเต็มตัว เธอมีเป้าหมายชัดเจนที่จะสร้างแบรนด์ “มีสุข โซไซตี้” ให้เป็นโปรโตไทป์และซอฟต์แวร์มาตรฐานในการต่อยอดธุรกิจในอนาคต ซึ่งเธอบอกว่าการสร้างมาตรฐานการให้บริการ การสร้างบุคลากร สร้างระบบ และบริหารงานเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ซึ่งหลังจากที่เธอมั่นใจว่าทุกอย่างลงตัว เราจะเห็นโครงการ “มีสุข โซไซตี้” เกิดขึ้นในจังหวัดอื่นๆ ภายใต้รูปแบบเดียวกันกับที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสถานที่พักอาศัย และใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมีความสุขอย่างแท้จริง
“ตอนนี้ มีสุข โซไซตี้ เรามีแห่งเดียวที่จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ซึ่งภายในโครงการจะมีทั้งคลินิก เนอร์สซิ่งโฮม และส่วนที่พักอาศัยแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมที่ออกแบบด้วยหลัก Universal Design คือ วิลลา มีสุข เรสซิเดนท์เซส สำหรับผู้พร้อมเกษียณไปจนถึงผู้อยู่ในภาวะพึ่งพิง โดยมีบริการเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและบริการด้านสุขภาพที่ครบถ้วน ถือเป็น Living Community ครบวงจร ที่ดำเนินการด้วยมาตรฐานคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมมานานกว่าสิบปี และเป็นที่ยอมรับจากองค์กรภาครัฐและเอกชนในแวดวงด้านอสังหาริมทรัพย์และการบริบาลสุขภาพ โดยเข้ามาดูงานที่โครงการของเราอยู่เสมอ ซึ่งเราเองในฐานะผู้บุกเบิกก็ยินดีแบ่งปันความรู้ให้กับทุกหน่วยงานที่สนใจ เพราะเป้าหมายของเราคือการมอบคุณภาพในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มวัยเกษียณทั้งท่านที่ยังแข็งแรงไปจนถึงท่านที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงได้อยู่อย่างมีความสุขทุกๆ วัน ดังสัญลักษณ์โลโก้ มีสุข โซไซตี้ ที่เป็นรูป “ดอกบัวบาน” เพื่อแสดงถึงความเบิกบานและการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ในฐานะผู้มีประสบการณ์ มีความรู้ และประสบความสำเร็จในชีวิต อันเป็นเป้าหมายหลักของ มีสุข โซไซตี้ ที่อยากให้ผู้สูงวัยทุกคนมีความเบิกบานอย่างยั่งยืน”

“จุดเริ่มต้นของ มีสุข โซไซตี้ คือเมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยคุณน้าหมอ รศ.พญ.ศิวาพร จันทร์กระจ่าง ผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบประสาทและสมอง ที่ทำการรักษาคนไข้ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน สมองเสื่อม และโรคสมองอื่นๆ ทั้งที่โรงพยาบาลและคลินิกส่วนตัวมาเป็นจำนวนมากและยาวนานมากกว่า 40 ปี ซึ่งคุณน้าได้พบว่า มีญาติๆ ของคนไข้มาปรึกษาถึงวิธีการดูแลคนไข้อย่างถูกต้องเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ทำให้ท่านตัดสินใจสร้าง “มีสุข เนอร์สซิ่งโฮม” ขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ดูแลผู้ป่วยที่มีคุณภาพ มีแผนการพยาบาลและบริบาลที่ถูกต้อง และที่สำคัญคือ ต้องดำเนินการและปฏิบัติด้วยใจ ดังนั้นตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา เราได้รักษามาตรฐานคุณภาพของบริการอย่างเข้มข้นและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งยังพัฒนาแบบแผนการจัดการในทุกองค์ประกอบให้พื้นที่แห่งนี้เป็นสังคมต้นแบบ เป็น มีสุข โซไซตี้ ที่อบอุ่น เปี่ยมล้นด้วยรอยยิ้ม และเอื้ออำนวยให้ทุกชีวิตที่อยู่ร่วมกันที่นี่มีความสุขทุกๆ วัน”
“จากระยะแรกที่เข้ามาดูแลภาพรวม วางระบบการบริหารจัดการและการตลาด ก็ได้พบว่า ตลาดผู้สูงอายุเป็นตลาดที่ใหญ่มาก มีแนวโน้มโตขึ้นทุกๆ ปี และปัจจุบันไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว และที่สำคัญมากคือ แม้ว่าจะเป็นตลาดใหญ่แต่กลับมีธุรกิจหรือบริการรองรับตลาดนี้ในปริมาณที่น้อยมาก เราเลยวางแผนที่จะขยายธุรกิจ โดยในเบื้องต้นคือในปีนี้ เราเริ่มสร้างองค์ประกอบของ มีสุข โซไซตี้ ให้ครบสมบูรณ์ด้วยการสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางและเพิ่มขีดความสามารถของเนอร์สซิ่งโฮม ให้ดูแลผู้ป่วยได้ตั้งแต่ภาวะพึ่งพิงไปจนถึงการดูแลแบบประคับประคองในระยะสุดท้าย หรือ Palliative Care โดยในอนาคตอันใกล้เราจะนำ มีสุข โซไซตี้ – Small is Beautiful – สังคมเล็กๆ ที่สร้างความสุขทุกๆ วันในการใช้ชีวิต ไปอยู่ที่จังหวัดอื่นๆ และนำแบรนด์ มีสุข โซไซตี้ เข้าตลาดหลักทรัพย์ ให้ผู้คนเข้าถึงสังคมมีสุข – มีสุข โซไซตี้ ของเราได้มากขึ้นค่ะ”
“หัวใจสำคัญที่ทำให้แบรนด์ มีสุข โซไซตี้ ประสบความสำเร็จก็คือ เราสร้าง มีสุข โซไซตี้ ให้เป็นประหนึ่งซอฟต์แวร์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ “การวางระบบบริหารจัดการอย่าง มีสุข โซไซตี้” เน้นเรื่อง “บุคลากร” เป็นสำคัญ ซึ่งนอกจากด้านความรู้ ความเข้าใจในผู้สูงอายุทุกเรื่องแล้ว บุคลากรของเราต้องมี “ใจ” ในการทำงาน ตลอดเวลามากกว่าสิบปีเราได้สั่งสมประสบการณ์จริง ทำให้รู้ว่าบริการที่มีคุณภาพจริงๆ เป็นเรื่องยาก เพราะต้องลงทุนสูงและต้องมีความพร้อมด้านบุคลากร แต่เรามาได้ถูกทางตรงที่เราเลือกที่จะ “เล็ก” เพราะทำให้เราดูแลลูกค้าผู้มารับบริการได้อย่างทั่วถึง สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของแต่ละท่านได้อย่างถูกใจท่าน ตรงตามคอนเซปต์ “Small is Beautiful” เพื่อให้ทุกคนในสังคมเล็กๆ นี้ มีความสุขมากที่สุด”

“ที่ มีสุข โซไซตี้ เราไม่ได้ดูแลแค่สุขภาพร่างกาย แต่ยังดูแลจิตใจไปพร้อมกัน เราต้องดูแลทุกคน ตั้งแต่ลูกค้า ญาติของลูกค้า และพนักงานทุกคน ให้มีความสุขทุกๆ วัน เพื่อสร้างความสุขในการอยู่ร่วมกัน – เป็นสังคมแบบครอบครัว ทุกกิจกรรมที่ มีสุขฯ ล้วนสร้างหรือจัดขึ้นตามความชอบ ความพอใจ และความเหมาะสม ของลูกค้าในสังคมเล็กๆ ของเราแบบเป็นรายบุคคล – Tailor Made / Individual ให้ทุกคนได้เลือกทำในสิ่งที่พอใจ อย่างการพาไปช็อปปิง ไปทำบุญ สังสรรค์รับประทานอาหารในวาระต่างๆ หรือไม่ต้องมีวาระก็ได้ เพื่อให้ทุกคนที่นี่มีความสุขเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน”
“วันนี้ มีสุข โซไซตี้ ได้ก้าวสู่ความเป็น The Living Fulfillment Community ดังเป้าหมาย โดยตลอดเวลานับแต่วันแรกที่เราเปิดให้บริการ เราไม่เคยหยุดพัฒนา เพราะเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน และทุกอย่างที่เราทำมาล้วนเป็นความพอใจและภูมิใจเป็นอย่างมาก และในอนาคตเราหวังว่า มีสุข โซไซตี้ จะเป็นสังคมสร้างสุขให้กับผู้คนในภาคต่างๆ ของไทย หรือข้ามประเทศไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ในโลกด้วย”

“หัวใจสำคัญที่ทำให้แบรนด์ มีสุข โซไซตี้ ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนคือ เราสร้าง มีสุข โซไซตี้ ให้เป็นซอฟต์แวร์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เน้น “บุคลากร” ที่มี “ใจ” และเลือกที่จะ “เล็ก” เพื่อดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง และตอบโจทย์ทุกความต้องการ”