จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม “ทีมเวิร์กที่ดีนำพาสู่ความสำเร็จ”

0
45

จากเด็กหนุ่มผู้ไล่ตามความฝัน บ่มเพาะประสบการณ์ คว่ำหวอดอยู่ในอุตสาหกรรมเพลงวงการบันเทิงไทย ทำทั้งงานเบื้องหน้าและงานเบื้องหลัง วันนี้ โดม – จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ได้ขยับบทบาทก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้บริหารในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บริษัท LIT Entertainment จำกัด โดยมีศิลปินในสังกัดได้แก่ PiXXiE, bamm, DIDI x DADA, Proo Thunwa และ Sugar ’N Spice (SNS) เป็นต้น

CEO โดม ได้บอกเล่าถึงการเข้ามาบริหารค่ายเพลง LIT Entertainment ว่า “จริงๆ จุดเริ่มของการทำค่ายเพลง LIT Entertainment เป็นความกระโจนลงไปล้วนๆ ตัวผมก็ไม่มีไอเดียเหมือนกัน แต่พอเริ่มๆ ทำไปก็ทำให้เราค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ วันแรกเราได้เจอเด็กๆ ศิลปินฝึกหัด เจอน้องพนักงานทั้งหมด ทำให้ผมรู้เลยว่าเหมือนเป็นความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นมาโดยอัตโนมัติ จากนี้จะไม่ใช่แค่เราดูแลตัวเอง แต่ยังมีชีวิตของเด็กฝึกในค่าย ชีวิตของคนที่มาทำงานกับเราเป็นทีมอยู่ด้วยกัน LIT Entertainment เราเริ่มจากที่มีพนักงานเพียง 5 คน และมีผู้บริหาร 2 คน และค่อยๆ เติบโตขึ้นมาวันนี้ก็เป็นเวลา 5 ปี ตอนนี้มีทีมที่เติบโตขึ้น มีแผนกอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น มีจำนวนศิลปินและเด็กฝึกที่จากเดิมเคยมีกันประมาณหลักหน่วยตอนนี้มีเพิ่มขึ้นมาเป็นหลักสิบ ถ้านับก็ประมาณ 30 คนที่ตอนนี้อยู่ในความดูแลภายในค่าย LIT Entertainment เลยเป็นความรู้สึกถ้าไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวของมันเองหรือไม่สามารถเติบโตได้ เราก็คงไม่สามารถสร้างทีมที่มันสามารถเติบโตได้ขนาดนี้ ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาถือว่ามาได้ไกลกว่าที่คาดคิดไว้เยอะมาก”

“แน่นอนอยู่แล้วว่าในการทำเพลงหนึ่งเพลง เป็นการใช้เงินลงทุนที่ค่อนข้างมหาศาลและตลาดวงการเพลงบ้านเราอาจจะไม่ได้นำมาซึ่งรายได้ที่เป็นกรอบเป็นกำที่เห็นได้ชัดเจนขนาดนั้น ก็เหมือนเป็นการเสี่ยงดวงอยู่พอสมควรในเรื่องของอุปสรรคต่างๆ อย่างเรื่องการลงทุน การทำทุกๆ งานมันมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากเหมือนกัน ตั้งแต่การทำเพลง การทำมิวสิกวิดีโอ ทั้งเรื่องคอสตูมเสื้อผ้า ช่างหน้าช่างผม เรื่องของโปรดักชันที่ใหญ่โตพอสมควร ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่วัดใจเราพอสมควรว่าสิ่งที่ลงทุนไปนั้นคุ้มค่าไหมที่จะเสี่ยง และตอนนี้ LIT Entertainment มีศิลปินในการดูแลถึง 5 ศิลปิน เราจะมีวิธีการบริหารยังไงให้แต่ละศิลปินยังคงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้เงินกับสิ่งที่เข้ามาอาจต้องสอดคล้องกันและสัมพันธ์กันได้”

พอถามถึงเป้าหมายในอนาคตของ LIT Entertainment นั้นซีอีโอคนเก่งกล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของ LIT Entertainment ในช่วงแรกๆ ของการทำค่าย ผมอยากให้ฐานในบ้านเราในประเทศไทยมีความแข็งแรงและเติบโต เป็นที่รู้จัก คนเชื่อมั่นในแบรนด์ในประเทศก่อน เมื่อในประเทศเราแข็งแรงแล้วต่างประเทศมองเข้ามาก็จะเห็นถึงความน่าสนใจ ก็จะเป็นโอกาสของประตูบานใหม่ๆ ให้เราได้เปิดออกไป ซึ่งช่วงของการทำเพลงในบ้านให้แข็งแรงจะอยู่ในช่วง 2-3 ปีแรก พอเข้าปีที่4 ปีที่5 จะค่อยๆ เริ่มเติบโต คนข้างนอกเริ่มเห็นมากขึ้น เมื่อในบ้านเขาพูดถึงคำว่า T-Pop มากขึ้น เขาเริ่มมองว่าสิ่งนี้อยากให้คนต่างชาติได้มาเห็น เขาเริ่มผลักดันออกไปกันมากขึ้น เมื่อโอกาสมาถึงผมก็รู้สึกว่า เราพร้อมมากพอแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็เป็นขั้นตอนที่เราค่อยๆ ขยายโอกาสให้กับตัวเองมากขึ้น ผมก็คาดหวังอยากให้ LIT Entertainment ค่อยๆ เติบโตไปในทิศทางที่ทำให้คนข้างนอกได้เห็นด้วย แต่ในขณะเดียวกันเราเองก็ยังคงอยากให้ฐานในบ้านหรือคนในประเทศรู้สึกภูมิใจและเข้าใจความหมายของคำว่า LIT Entertainment ให้เต็มที่ที่สุดด้วย”

แน่นอนเมื่อเอ่ยถึงคำว่า success วันนี้คุณได้ตีความหมายของการประสบความสำเร็จไว้อย่างไร แต่ โดม – จารุวัฒน์ มองว่า “ถ้าสำหรับ LIT Entertainment ผมมองว่าเป็นอาชีพ ค่ายเพลงก็เป็นอาชีพ ศิลปินก็เป็นอาชีพหนึ่ง ฉะนั้นความสำเร็จของการทำอาชีพสักอาชีพหนึ่ง แปลว่า เขาสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ในพาร์ตของผมมองว่า ประสบความสำเร็จจริงๆ แล้ว นอกเหนือจากเรื่องชื่อเสียง นอกเหนือจากการถูกกล่าวถึง การถูกรู้จัก สิ่งนี้ยังต้องคำนึงอยู่ เพราะคืออาชีพของเขา ถ้าเกิดประสบความสำเร็จนั่นแปลว่าเขาสามารถทำสิ่งนี้เป็นอาชีพจริงๆ ได้ เลี้ยงดูตัวเองได้ นั่นคือความสำเร็จของการทำค่ายเพลงค่ายหนึ่ง เพราะว่าเป็นบทพิสูจน์เหมือนกัน แต่ว่ามาตรวัดที่สำคัญถ้าเรามองเป็นอาชีพยังไงคำว่าอาชีพต้องสามารถเลี้ยงดูชีพตนได้ วิชาชีพที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้”หัวใจหลักที่คอยผลักดันให้ประสบความสำเร็จ “สำหรับผมแล้วหัวใจหลักเลยคือการทำงานเป็นทีม ต้องยกเครดิตทุกอย่างในการทำสิ่งนี้ให้กับทุกๆ คนที่อยู่ในเส้นทางนี้ ไม่ว่าจะเป็น ณ จุดเริ่มต้นเลย พี่จี๊บ – เทพอาจ กวินอนันต์ เป็นคนให้โอกาสและเป็นผู้ให้กำลังใจกับทุกคน และเป็นคนเริ่มต้นของการทำค่าย LIT Entertainment แม้กระทั่งทีมงานทุกคนและผู้บริหารอีกท่าน พี่มุก – นิตา ชวลิต ที่ร่วมบริหารด้วยกันในค่าย หรือทุกๆ คนที่ทำงานด้วยกัน ศิลปินทุกๆ คน รู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นหัวใจมาก ถ้าเราไม่ไปด้วยกันเป็นทีม ทุกคนมาแค่ทำงานแล้วกลับบ้านก็อาจจะไม่เกิดความรู้สึกที่ส่งให้คนดูรู้สึกด้วยเช่นกันว่า พวกเรากำลังทำงานศิลปะด้วยความสนุก ทำงานศิลปะชิ้นนี้ด้วยความบันเทิงเพื่อให้ทุกคนได้มีความสุข ผมว่าหัวใจของการทำค่ายเพลงคือตัวคนทำต้องมีความสุข ถึงจะสามารถปล่อยผลงานที่ทำให้คนฟังจรรโลงใจออกมาได้ พอเรามาอยู่ด้วยกันแล้วกลายเป็นทีมเวิร์กที่ดีมาก”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.